แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - siritidaphon

หน้า: [1] 2 3 ... 27
1
ชุดปฏิบัติธรรม ชุดแม่ชี เราเป็น โรงงานผลิตโดยตรง
ตัดเย็บปราณีต ทรงสวย เรียบหรู ดูสง่างดงาม
ผลิตจาก ผ้าฝ้ายแท้ 100% เกรดพรีเมียม

ชุดปฏิบัติธรรม ชุดขาวไปวัด ชุดแม่ชี
– ราคาแยกรายชิ้น –
ทอย้อมจากโรงงานอุตสาหกรรมชั้นดี
พร้อมส่งทุกไซส์
(กรณีสั่งตัดไซส์พิเศษ รอผลิต 7-10 วัน)
จัดส่งฟรี‼ เมื่อลูกค้าโอนชำระ
มีบริการเก็บเงินปลายทาง (+ตัวละ 10.-)

รับตัดชุดขาวไซส์ใหญ่พิเศษ
หมดกังวล หาไซส์ไม่ได้ ทางร้านเป็นโรงงานผลิตโดยตรง
สามารถสั่งตัดชุดได้ตามความต้องการ รอผลิต 7-10 วันทำการ

ร้านอริยทรัพย์ ชุดขาวปฏิบัติธรรม
เบอร์มือถือ :  092-926-4142 , 063-289-5356
Facebook : ชุดขาวปฎิบัติธรรม อริยทรัพย์
Instagram : ariyasub.shop
ID Line : @ariyasub (มี@)
เว็บไซด์: https://ariyasub99.com/
สนใจตัดชุดขาวไซซ์พิเศษ ติดต่อมาได้เลยค่ะ

สัมผัสประสบการณ์ใหม่
จากผ้าฝ้ายแท้ 100%
 นุ่มสบาย ไม่ร้อน ไม่ระคายคือง
ใส่ใจทุกขั้นตอนการผลิต ตั้งแต่การคัดสรรเนื้อผ้า
การตัดเย็บ รวมไปถึงการจัดส่งแบบปกติ
และจัดส่งเร่งด่วน (Kerry EMS Grab)

ชุดขาวปฎิบัติธรรม ชุดขาวหญิง ชุดแม่ชี คุณภาพ
เน้นคุณภาพใส่ใจทุกขั้นตอน ตัดเย็บงานผ้าฝ้ายคุณภาพ (cotton 100%)
สวมใส่สบาย ระบายความร้อนได้ดี ไม่อึดอัด

ชุดปฎิบัติธรรมชาย คุณภาพ
เน้นคุณภาพใส่ใจทุกขั้นตอน ตัดเย็บงานผ้าฝ้ายคุณภาพ (cotton 100%)
สวมใส่สบาย ระบายความร้อนได้ดี ไม่อึดอัด


ร้านอริยทรัพย์ ชุดขาวปฏิบัติธรรม
เบอร์มือถือ :  092-926-4142 , 063-289-5356
Facebook : ชุดขาวปฎิบัติธรรม อริยทรัพย์
Instagram : ariyasub.shop
ID Line : @ariyasub (มี@)
เว็บไซด์: https://ariyasub99.com/
สนใจตัดชุดขาวไซซ์พิเศษ ติดต่อมาได้เลยค่ะ







2
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น
•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”


สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/



3
ปล่อยรถป้ายแดง Volvo XC90 Recharge Ultimate T8 Plug-in Hybrid Bright ปี 2024

วอลโว่ Volvo XC90 Recharge Ultimate T8 Plug-in Hybrid Bright ปี 2023
Volvo XC90  Recharge Ultimate T8 Plug-in Hybrid Bright ขุมพลัง T8 Twin Engine ์Drive E เบนซิน 2 ลิตร 4 สูบ เทอร์โบชาร์จ และมอเตอร์ไฟฟ้า อัพเกรดด้วยระบบทำกรองอากาศขั้นสูง Advanced Air Cleaning (AAC) พร้อมเซ็นเซอร์ตรวจจับและวัดค่าฝุ่นละออง PM2.5, ระบบเสียงระดับโลกจาก Bowers &Wilkins Premium, แท่นชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย

หมายเหตุ : รายละเอียดของรถยนตอ์าจมีการเปลี่ยนแปลงภายหลัง

รถผู้บริหาร รถทดลองขับ ไมล์น้อย ราคาและโปรโมชั่นพิเศษ

โปรโมชั่นพิเศษ
ตั้งแต่ 20 มี.ค. - 31 มี.ค. 2568
ลงทะเบียนผ่านเช็คราคา รับส่วนลดเพิ่มเติม 50,000 บาท

ราคาพิเศษ 3,490,000 บาท

สนใจสอบถา มรายละเอียดกดลิ้ง https://www.checkraka.com/flashdeal/car

รายละเอียดเบื้องต้น
   แบรนด์                 Volvo
   รุ่น                     วอลโว่ Volvo XC90 Recharge Ultimate T8 Plug-in Hybrid Bright ปี 2023
   ประเภทรถ            รถอเนกประสงค์ SUV, รถไฮบริด
   ปีที่เปิดตัว            2023


4
จัดฟันบางนา: คราบหินปูน ในช่องปาก ต้นเหตุของโรคเหงือกและฟัน

คุณเคยสงสัยไหม ?
หินปูนที่เกาะติดอยู่ที่ฟันของเรามันเกิดมาจากอะไร ?
มันอยู่บนฟันของเรา แล้วเราก็ต้องเสียเงินไปเอามันออกทุกๆ  6 – 7 เดือน   แล้วทำไมต้องเอาหินปูนออก ?


คราบหินปูน ในช่องปาก คืออะไร ?
หินปูน หรือ หินน้ำลาย   พัฒนามาจากคราบแบคทีเรีย พลาค  ( Plaque )   หรือที่เราเรียกกันว่า ขี้ฟัน ครับ  มันมีลักษณะเป็นฟิลม์ใสๆ บางๆ แล้วเกาะติดอยู่บริเวณขอบเหงือ  มีสี ออกเหลือง หรือเทา

แล้วหินปูนเกิดขึ้นมายังไง  ?
เกิดจากเวลาที่เรากินอาหาร ยิ่งเป็นอาหารประเภท  คาร์โบไฮเดรด ที่มีแป้ง น้ำตาล  แล้วเราแปรงฟันไม่สะอาดพอ  แบคทีเรียในช่องปาก อยู่ได้ เพราะใช้น้ำตาล เป็นแหล่งพลังงาน สร้างกรดและสารพิษ    เมื่อแบคทีเรียถูกสะสม แคลเซียมและอาหารอื่นๆ มาทับถมซ้อนกันก็ทำให้เกิดคราบแข็งเกาะติดจนเป็น หินปูน  ในที่สุด

สรุปคือ เกิดจากการตกตะกอนของแคลเซียม และฟอสเฟรด เป็นแร่ธาตุที่มีอยู่ในน้ำลาย

จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราไม่ขูดหินปูนออก   ?
สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับคุณ เวลาแปรงฟันคุณสังเกตุว่ามี เลือดออก เหงือกบวมแดง มีกลิ่นปาก  เสียบุคลิกภาพ ส่งผลแรงแรงอย่างที่คุณไม่คาดคิด คือเป็น โรคปริทันต์อักเสบ  ฟันเริ่มโยก นำไปสู่การ สูญเสียฟัน น่ากลัวมาก

*** คำแนะนำ
สิ่งที่เราจะทำได้ เพื่อป้องกันการเกิดหินปูน คือ
–  แปรงฟันให้ถูกวิธีอย่างสม่ำเสมอ 2 – 3 ครั้ง
–  ใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์
–  ใช้ไหมขัดฟัน Floss เพราะแปรงสีฟันเพียงอย่างเดียว อาจเข้าไปทำความสะอาดไม่ถึงคราบซอกฟันของเรา
–  ไปพบหมอ ทุกๆ 6 เดือน เพื่อเอาหินปูนออกและ ตรวจสุขภาพช่องปาก ครับ

5
ข้อดี และข้อจำกัดของฉนวนกันความร้อนชนิดต่าง ๆ

ชวนรู้ข้อดีข้อเสียก่อนเลือกติดฉนวนกันความร้อน ให้เหมาะกับบ้านคุณที่สุด

คงจะปฏิเสธไม่ได้เลยว่า สภาพอากาศอย่างบ้านเรา ประเทศไทยนี้ ถือได้ว่ามีสภาพอากาศที่ร้อนแทบจะตลอดทั้งปี และดูเหมือนว่าในทุก ๆ ปี จะมีอุณหภูมิที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ นั่นทำให้การหาวิธีลดอุณหภูมิภายในที่อยู่อาศัยลง เป็นเรื่องที่หลาย ๆ ต้องให้ความสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นวิธีการแบบใช้ธรรมชาติช่วยอย่างการปลูกต้นไม้ให้ร่มเงา หรือวิธีการทางการออกแบบอย่างการสร้างบ้านให้มีหลังคาสูง หลีกเลี่ยงทิศทางที่ปะทะกับแสงแดด และวิธีการที่ง่าย และช่วยเพิ่มความเย็นสบายได้อย่างรวดเร็วอย่างการติดตั้งเครื่องปรับอากาศ แต่รู้หรือไม่ว่า ยังมีอีกวิธีหนึ่งที่สามารถช่วยลดอุณหภูมิความร้อนที่แนะนำก็คือ การติดตั้งฉนวนกันความร้อนนั่นเอง ซึ่งได้ว่าเป็นการลงทุนที่ค่อนข้างคุ้มค่าเลยทีเดียว เพราะฉนวนกันความร้อนสามารถช่วยป้องกันความร้อนได้ในระยะยาว จากต้นเหตุ วันนี้เราจึงจะมาบอกข้อดี และข้อจำกัดขอฉนวนกันความร้อนแต่ละประเภท เพื่อการเลือกใช้งานได้อย่างเหมาะสมกัน

ฉนวนกันความร้อนคืออะไร และทำไมจึงสำคัญ?

ฉนวนกันความร้อนคือวัสดุที่ใช้เพื่อลดการถ่ายเทความร้อนระหว่างภายนอกและภายในบ้าน มีบทบาทสำคัญในการรักษาอุณหภูมิในบ้านให้อยู่ในระดับที่สบาย ไม่ว่าจะในช่วงฤดูร้อนหรือฤดูหนาว โดยช่วยลดปริมาณความร้อนที่เข้าสู่บ้านในช่วงกลางวันและกักเก็บความเย็นในช่วงกลางคืน ส่งผลให้การใช้พลังงานจากเครื่องปรับอากาศลดลงอย่างเห็นได้ชัด

ข้อดีของฉนวนกันความร้อน

ช่วยลดอุณหภูมิในบ้าน
    ฉนวนกันความร้อนมีคุณสมบัติในการสะท้อนความร้อนกลับสู่ภายนอก ทำให้ภายในบ้านเย็นลง โดยเฉพาะในวันที่อากาศร้อนจัด

    ลดค่าไฟฟ้าในระยะยาว
    บ้านที่ติดฉนวนกันความร้อนจะสามารถลดการใช้พลังงานจากเครื่องปรับอากาศได้ถึง 20-30% ซึ่งช่วยลดค่าไฟฟ้าในระยะยาว
    เพิ่มความสะดวกสบายในการอยู่อาศัย
    ด้วยการควบคุมอุณหภูมิในบ้านให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ฉนวนกันความร้อนช่วยสร้างความรู้สึกสบายให้แก่ผู้อยู่อาศัย

    ลดเสียงรบกวน
    ฉนวนกันความร้อนบางประเภทมีคุณสมบัติในการลดเสียงรบกวนจากภายนอกได้ดี เช่น เสียงรถยนต์หรือเสียงฝน
    ช่วยยืดอายุการใช้งานของบ้าน
    ด้วยการลดความร้อนที่สะสมในโครงสร้างบ้าน ฉนวนกันความร้อนช่วยลดความเสียหายที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ

จะเลือกฉนวนกันความร้อน ควรพิจารณาอะไรบ้าง?

จะเลือกติดตั้งฉนวนกันความร้อนทั้งที ก็ต้องให้ได้ความคุ้มค่ามากที่สุดในการลงทุน เราจึงรวบรวมสิ่งที่ควรพิจารณาหลักๆ มาฝากกัน เพราะเมื่อทำการติดตั้งแล้วเจ้าฉนวนกันความร้อนนี้จะอยู่กับเราไปอีกนานในการทำหน้าที่ป้องกันความร้อนให้กับบ้านนับสิบปี โดยสิ่งที่ควรต้องพิจารณา หรือสังเกตก่อนการตัดสินใจเลือกติตตั้งฉนวนกันความร้อนก็คือ

-    ความปลอดภัย: อับดับแรกการคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะฉนวนกันความร้อนเป็นสิ่งที่เราจะนำมาติดตั้งภายในบ้าน ซึ่งมีทั้งคนฝนครอบครัว และอาจมีสัตว์เลี้ยง เราจึงควรพิจารณาว่า ฉนวนกันความร้อนนั้น ๆ มีการเกิดฝุ่นที่ทำให้เป็นอันตรายหรือไม่ สามารถเป็นเชื้อรา หรือเป็นแหล่งที่อยู่ของสัตว์รบกวนหรือไม่ และที่สำคัญจะต้องไม่เป็นฉนวนกันความร้อนที่ทำให้เกิดการลุกลามของไฟ เมื่อเกิดเหตุอัคคีภัย ซึ่งข้อนี้สำคัญมากๆ ต่อความปลอดภัยภายในบ้าน

-    ค่าการนำความร้อน: ในการเป็นฉนวนกันความร้อนจำเป็นจะต้องมีคุณสมบัติของการป้องกันความร้อนตามหลักการ โดยจะต้องพิจารณาจากค่าการนำความร้อนหรือ ค่า k และค่าความต้านทานความร้อน หรือค่า R ที่จะต้องไม่มีการเปลี่ยนแปลง หรือเปลี่ยนแปลงน้อยที่สุดตลอดระยะเวลาการใช้งาน ซึ่งเราสามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญได้

-    โครงสร้างของฉนวน: โครงสร้างของฉนวนกันความร้อนนั้นจะสามารถบ่งบอกถึง การดูดซึมน้ำ และความชื้นของตัวฉนวนว่ามีการดูดซึมง่ายหรือไม่ และต้องมั่นใจว่าจะต้องไม่เกิดการยุบตัวเมื่อใช้งานไปในระยะเวลานาน เพราะน้ำ และการยุบตัวจะส่งผลต่อทั้งค่า k และค่า R ทางด้านความเป็นฉนวนกันความร้อน

ฉนวนกันความร้อนมีกี่ชนิด พร้อมข้อดี-ข้อเสียของฉนวนกันความร้อนที่ควรสังเกต

ฉนวนกันความร้อนในท้องตลาดมีให้เลือกหลากหลายชนิดตามวัสดุ และคุณสมบัติของวัสดุที่สามารถป้องกันความร้อนได้ เรามาดูกันว่าฉนวนกันความร้อนมีกี่ชนิด และมีข้อดีข้อเสียที่ต้องสังเกตอะไรบ้าง

    ฉนวนกันความร้อนแบบใยแก้ว

    ฉนวนกันความร้อนที่มีลักษณะเป็นเส้นใยแก้วขนาดเล็กประสานกัน ทำให้เกิดฟองอากาศ ที่ทำหน้าที่เก็บความร้อนไว้ภายใน

        ข้อดี: เส้นใยแก้วถือเป็นวัสดุนำความร้อนต่ำ สามารถดูดซับเสียง ไม่เป็นวัสดุลามไฟ ติดตั้งได้ง่าย ฉนวนกันความร้อนแบบใยแก้วมีให้เลือกทั้งแบบม้วน และแบบแผ่น สามารถนำไปใช้งานได้อย่างหลากหลาย
        ข้อเสีย: ต้องระมัดระวังเรื่องการรั่วซึม เพราะเส้นใยแก้วสามารถยุบตัวเมื่อถูกน้ำ ความชื้น และการกดทับ รวมถึงในการติดตั้งฉนวนกันความร้อนแบบใยแก้วนั้นอาจเกิดการฟุ้งกระจายของเส้นใยได้

    ฉนวนกันความร้อนแบบใยหิน

    เป็นฉนวนกันความร้อนที่ผลิตจากหินภูเขาไฟที่นำมาผ่านกระบวนการหลอมด้วยความร้อนสูง และปั้นให้เป็นเส้นใย จึงมีคุณสมบัติที่สามารถป้องกันความร้อนได้

        ข้อดี: คุณสมบัติเด่นของฉนวนกันความร้อนแบบใยหินคือ การป้องกันความร้อนได้สูง เป็นวัสดุกันไฟ และยังสามารถช่วยดูดซับเสียงได้ มีอายุการใช้งานที่ยืนยาว โดยทั่วไปจะมีขนาดความหนาให้เลือกใช้ตั้งแต่ 5 เซนติเมตรขึ้นไป สามารถใช้เป็นฉนวนฝ้าเพดาน และยังนิยมนำไปติดตั้งเป็นฉนวนกันเสียงได้อีกด้วย
        ข้อเสีย: การเลือกใช้ฉนวนกันความร้อนแบบใยหิน จะต้องให้แน่ใจ และแยกแยะให้ชัดเจนระหว่าง ฉนวนใยหิน และ แร่ใยหิน ซึ่งแร่ใยหินนั้นอาจเป็นอันตรายได้ แต่ฉนวนกันความร้อนแบบใยหินจะไม่มีส่วนผสมของแร่ใยหิน จึงไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้งาน และข้อจำกัดอีกประการคือ ฉนวนชนิดนี้จะไม่เหมาะกับการติดตั้งในบางพื้นที่ จึงควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนการตัดสินใจติดตั้ง

    ฉนวนกันความร้อนแบบพอลิยูรีเทนโฟม

    ฉนวนกันความร้อนที่ผลิตด้วย พอลิยูรีเทนโฟม หรือเรียกอีกอย่างว่า โฟม PU หรือโฟมเหลือง เป็นวัสดุที่นำความร้อนต่ำ

        ข้อดี: ฉนวนกันความร้อนแบบพอลิยูรีเทนโฟม มีคุณสมบัติเด่นที่สามารถป้องกันน้ำ และความชื่น และยังช่วยกันเสียงรบกวนได้อีกด้วย โดยโฟมพอลิยูรีเทนโฟม มีทั้งแบบฉีดพ่น และแบบแผ่น รวมถึงแบบที่มาพร้อมกับแผ่นฝ้าในตัว และยังได้มีการพัฒนาคุณสมบัติขึ้นด้วยการเพิ่มสารกันไฟลามเข้าไปด้วย
        ข้อเสีย: การเลือกใช้ฉนวนกันไฟแบบพอลิยูรีเทนโฟมนั้น จึงจำเป็นจะต้องสังเกต และพิจารณาให้ดีก่อนว่าตัวฉนวนกันความร้อนที่จะเลือกใช้เป็นแบบพอลิยูริเทนที่ผสมสารกันไฟลาม เพื่อเพิ่มความปลอดภัยนั่นเอง

    ฉนวนกันความร้อนแบบอลูมิเนียมฟอยล์

    ฉนวนกันความร้อนแบบอลูมิเนียมฟอยล์ มีลักษณะคล้ายกับแผ่นฟอยล์ทั่วไป แต่จะมีความหนา เหนียว และมีความทนทานกว่า ถือเป็นฉนวนกันความร้อนที่มีราคาไม่สูงมากนัก

        ข้อดี: นอกจากจะเป็นฉนวนกันความร้อนที่มีราคาถูก คุณสมบัติเด่นของอลูมิเนียมฟอยล์ยังสามารถกันความร้อน ติดตั้งได้ง่าย น้ำหนักเบา ไม่เป็นวัสดุติดไฟ และไม่ขึ้นเชื้อราเมื่อถูกความชื้น และยังสามารถป้องกันรังสียูวีได้อีกด้วย
        ข้อเสีย: แต่ข้อแนะนำคือ หากตัดสินใจเลือกใช้ฉนวนกันความร้อนแบบอลูมิเนียมฟอยล์ ควรจะใช้ควบคู่กับฉนวนกันความร้อนชนิดอื่น ๆ เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันความร้อนได้ดีกว่า และเมื่อติดตั้งนวนกันความร้อนชนิดนี้อาจมีประสิทธิภาพลดลงได้หากมีฝุ่นเกาะ หรือเกิดคราบสกปรกขึ้น

    ฉนวนกันความร้อนแบบแอร์บับเบิล

    ฉนวนกันความร้อนแบบแอร์บับเบิล เป็นฉนวนที่มีลักษณะคล้ายพลาสติกกันกระแทก โดยทำให้มีมวลอากาศอยู่ตรงกลางระหว่างแผ่นฟอยล์ที่ประกบกัน เพื่อให้เกิดคุณสมบัติที่สามารถสะท้อนความร้อนได้

        ข้อดี: ฉนวนกันความร้อนแบบแอร์บับเบิลมีข้อดีคือ สามารถนำไปติดตั้งได้หลากหลายรูปแบบตามต้องการ
        ข้อเสีย: ฉนวนกันความร้อนประเภทนี้มีส่วนประกอบที่มีการผลิตขึ้นจากพลาสติก ซึ่งจะเป็นพลาสติกชนิดใดก็จะขึ้นอยู่กับผู้ผลิต เช่นเดียวกับฉนวนที่ผลิตจากพลาสติกชิดอื่น ๆ ที่จะต้องมีส่วนผสมของสารกันไฟเท่านั้น เพื่อความปลอดภัย

    ฉนวนกันความร้อนแบบเยื่อกระดาษ

    ฉนวนกันความร้อนแบบเยื่อกระดาษ หรือฉนวนเซลลูโลส เป็นฉนวนกันความร้อนที่ผลิตขึ้นจากกระดาษที่ใช้แล้ว โดยตัววัสดุสามารถป้องกันความร้อนได้

        ข้อดี: มีน้ำหนักเบา สามารถกันเสียงได้ ป้องกันเชื้อราได้ แม้ว่าจะทำจากวัสดุที่เป็นกระดาษแต่ฉนวนชนิดนี้ไม่ทำให้เป็นแหล่งของสัตว์รบกวนแต่อย่างใด และยังสามารถฉีดพ่นได้บนพื้นที่ และพื้นผิวที่หลากหลาย
        ข้อเสีย: ฉนวนกันความร้อนแบบเยื่อกระดาษนั้น จะควบคุมความหนาได้ยาก และอาจทำได้ไม่สม่ำเสมอ

    ฉนวนกันความร้อนแบบ Calcium silicate
    เป็นฉนวนกันความร้อนที่ผลิตจาก “ทรายซิลิเซียส” ที่นำมาผ่านกระบวนการอบด้วยไอน้ำพลังงานจากความร้อนสูง เพื่อให้เกิดเป็น ปูนขาวไฮเดรต ที่มีลักษณะเป็นเส้นใยละเอียดพิเศษ มีทั้งแบบ เส้นใยแร่ และเส้นใยสังเคราะห์

        ข้อดี: มีคุณสมบัติที่ไม่ทำให้เกิดการสันดาป จึงสามารถป้องกันไฟ และไร้มลพิษ สามารถใช้กับอุณหภูมิได้ 1000°C มีค่าการนำความร้อนสูงกว่าฉนวนใยหิน และสามารถทนต่อแรงกดได้สูง จึงเหมาะกับใช้ในงานอุตสาหกรรม
        ข้อเสีย: มีราคาค่อนข้างสูง เหมาะกับการใช้งานในภาคอุตสาหกรรมมากกว่า

    ฉนวนกันความร้อนแบบ Ceramic fiber
    คือฉนวนกันความร้อนที่สามารถทนต่ออุณหภูมิที่สูงได้ถึง 1,000 – 1,600 องศาเซลเซียส เพราะผลิตด้วยเส้นใยเซรามิกส์ไฟเบอร์ ที่ประกอบไปด้วยสารประกอบอะลูมิโนซิลิเกต และจะมีการผสมสารประกอบของเซอร์โคเนียมด้วย

        ข้อดี: มีน้ำหนักเบา ทนต่ออุณหภูมิสูง ทนความร้อนได้ดี นำความร้อนต่ำ ความร้อนจำเพาะ และการสั่นสะเทือนทางกลต่ำ เหมาะกับการใช้ในงานอุตสาหกรรมเครื่องกล โลหะ เคมี ปิโตรเลียม เซรามิกส์ แก้ว อิเล็กทรอนิกส์ และอุตสาหกรรมอื่น ๆ
        ข้อเสีย: มีราคาค่อนข้างสูง ไม่เหมาะกับงานทั่วไป

วิธีเลือกฉนวนกันความร้อนให้เหมาะกับบ้านคุณ

    พิจารณาลักษณะของบ้าน
    บ้านที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีอากาศร้อนควรเลือกฉนวนกันความร้อนที่มีคุณสมบัติสะท้อนความร้อนได้ดี
    งบประมาณที่มี
    หากคุณมีงบประมาณจำกัด อาจเลือกฉนวนใยแก้วซึ่งมีราคาย่อมเยาและติดตั้งง่าย
    เลือกผู้ติดตั้งที่มีประสบการณ์
    การติดตั้งฉนวนกันความร้อนที่มีมาตรฐานจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและยืดอายุการใช้งาน
    คำนึงถึงวัสดุที่ปลอดภัยต่อสุขภาพ
    เลือกวัสดุฉนวนกันความร้อนที่ไม่มีสารเคมีหรือวัสดุที่สามารถก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ

ฉนวนกันความร้อนช่วยเพิ่มมูลค่าให้บ้านได้อย่างไร?

บ้านที่ติดฉนวนกันความร้อนอย่างเหมาะสมจะช่วยเพิ่มมูลค่าในการขายต่อ เพราะเป็นหนึ่งในจุดขายที่เจ้าของบ้านใหม่มักให้ความสำคัญ นอกจากนี้ยังช่วยสร้างภาพลักษณ์ของบ้านที่ใส่ใจในสิ่งแวดล้อม

การติดตั้งฉนวนกันความร้อนมีทั้งข้อดีและข้อเสียที่ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ การเลือกฉนวนกันความร้อนที่เหมาะสมและติดตั้งโดยผู้เชี่ยวชาญจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความร้อนและลดการใช้พลังงานในระยะยาว หากคุณกำลังมองหาวิธีปรับปรุงบ้านให้เย็นสบายและประหยัดพลังงาน การลงทุนในฉนวนกันความร้อนเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คุ้มค่าและน่าลงทุนที่สุดในปัจจุบัน

ทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลดี ๆ เกี่ยวกับฉนวนกันความร้อนแต่ละชนิด ที่ต่างมีทั้งคุณสมบัติเด่น ข้อดี ข้อเสียที่แตกต่างกันไปตามคุณสมบัติของวัสดุที่นำมาผลิต เพื่อให้คุณสามารถเปรียบเทียบ และเลือกใช้ฉนวนกันความร้อนที่เหมาะสม และคุ้มค่าที่สุด

6
หมอประจำบ้าน: โรคหัวใจขาดเลือด/โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ (Ischemic heart disease)

แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

1. ในรายที่สงสัยเป็นโรคหัวใจขาดเลือดชั่วขณะ (มีอาการเจ็บแน่นหน้าอกเพียงชั่วขณะ เป็นบางครั้งบางคราว) แพทย์มักจะวินิจฉัยโดยการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (electrocardiography/ECG/EKG) ตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ (ดูว่าเป็นเบาหวาน มีภาวะไขมันในเลือดผิดปกติ หรือปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ หรือไม่)

ในกรณีที่คลื่นไฟฟ้าหัวใจบอกผลได้ไม่ชัดเจน* อาจจำเป็นต้องทำการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจซ้ำ หรือทำการตรวจพิเศษอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจขณะออกกำลังกาย (exercise stress test) โดยการวิ่งบนสายพานหรือปั่นจักรยาน การถ่ายภาพหัวใจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (echocardiography) การถ่ายภาพรังสีหลอดเลือดหัวใจ (coronary angiography) เป็นต้น

การรักษา แพทย์จะให้ยาขยายหลอดเลือดหัวใจกลุ่มไนเทรต เพื่อป้องกันและบรรเทาอาการเจ็บหน้าอก ได้แก่ ไนโตรกลีเซอรีน (nitroglycerine) หรือไอโซซอร์ไบด์ (isosorbide) อมใต้ลิ้นทันทีเมื่อมีอาการเจ็บหน้าอก ยานี้อาจมีผลข้างเคียงทำให้เกิดอาการปวดศีรษะแบบตุบ ๆ ที่ขมับคล้ายไมเกรน เนื่องจากหลอดเลือดที่ขมับขยายตัว บางรายอาจมีอาการเป็นลมขณะลุกขึ้นยืน ดังนั้นเวลาจะอมยากลุ่มนี้ ควรนั่งลงเสียก่อนอย่าอยู่ในท่ายืน

นอกจากนี้ อาจให้ยาขยายหลอดเลือดหัวใจชนิดออกฤทธิ์นาน เช่น ไอโซซอร์ไบด์ (isosorbide) ไดไพริดาโมล (dipyridamole) เพนตาอีริไทรทอล (pentaerythritol) เพื่อป้องกันมิให้เกิดอาการ

ผู้ป่วยทุกราย แพทย์จะให้ยาต้านเกล็ดเลือด ได้แก่ แอสไพริน ขนาด 81-325 มก. วันละครั้ง เพื่อไม่ให้เกล็ดเลือดจับเป็นลิ่มเกาะที่ผนังหลอดเลือดหัวใจมากขึ้น ถ้าแพ้แอสไพรินหรือมีข้อห้ามใช้ยานี้อาจให้ไทโคลพิดีน (ticlopidine) 250 มก. วันละ 2 ครั้ง หรือโคลพิโดเกรล (clopidogrel) 75 มก. วันละครั้ง

บางครั้งอาจต้องให้ยาปิดกั้นบีตา ยาต้านแคลเซียม หรือยาต้านเอซ ซึ่งสามารถลดการเกิดโรคกล้ามเนื้อหัวใจตาย และป้องกันการเสียชีวิตได้

ถ้าผู้ป่วยมีโรคที่เป็นสาเหตุ เช่น ภาวะไขมันในเลือดสูง เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ก็ต้องให้ยารักษาโรคเหล่านี้ร่วมด้วย

ในรายที่มีอาการเจ็บหน้าอกบ่อย หรือใช้ยาไม่ได้ผล แพทย์จะทำการสวนหัวใจและฉีดสีถ่ายภาพหลอดเลือดหัวใจ (cardiac catheterization and  angiogram) ถ้าพบว่ามีการอุดกั้นรุนแรงหรือหลายแห่ง ก็จะทำการแก้ไขโดยการขยายหลอดเลือดด้วยบอลลูน (นิยมเรียกว่า การทำบอลลูน)** และใส่หลอดลวดตาข่าย (stent) คาไว้ในหลอดเลือดบริเวณที่ตีบตัน

ในบางครั้งแพทย์อาจพิจารณาทำการผ่าตัดเปิดทางระบาย (ทางเบี่ยง) ของหลอดเลือดหัวใจ (นิยมเรียกว่า การผ่าตัดบายพาส)*** วิธีนี้มักใช้กับผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บหน้าอกรุนแรง ใช้ยารักษาไม่ได้ผล หรือไม่สามารถทำบอลลูนหรือทำบอลลูนไม่ได้ผล

2. ถ้ามีอาการเจ็บหน้าอกรุนแรงหรือต่อเนื่องเป็นชั่วโมง ๆ ถึงเป็นวัน ๆ มีภาวะหัวใจวาย ช็อกหรือหมดสติ หรือมีอาการเจ็บหน้าอกรุนแรงและบ่อยขึ้นกว่าเดิม หรือมีอาการเจ็บหน้าอกขณะพักหรือออกแรงเพียงเล็กน้อย

แพทย์จะทำการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ตรวจเลือด (มักพบระดับ creatine kinase-MB และ troponin ในเลือดสูงกว่าปกติในผู้ป่วยที่มีโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน) และตรวจพิเศษอื่น ๆ ถ้าพบว่าเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจตาย หรือโรคหัวใจขาดเลือดชั่วขณะแบบไม่คงที่ (unstable angina) ก็จะรับตัวไว้รักษาในโรงพยาบาล

การรักษา ในรายที่เป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน แพทย์จะให้แอสไพรินเคี้ยวก่อนกลืน (ถ้ายังไม่ได้รับมาก่อน ซึ่งจะช่วยลดขนาดของลิ่มเลือดที่อุดตัน ช่วยให้รอดชีวิตได้) ให้ยาปิดกั้นบีตา (เพื่อลดอัตราการเต้นของหัวใจ ลดการทำงานของหัวใจ ป้องกันไม่ให้กล้ามเนื้อหัวใจถูกทำลายมากขึ้น) ให้ยาต้านเอซ (เพื่อลดการพองตัวของหัวใจ รักษาภาวะหัวใจวาย ช่วยลดการตายลงได้) ฉีดมอร์ฟีนระงับปวด และให้ออกซิเจน

นอกจากนี้ แพทย์อาจพิจารณาให้การรักษาขั้นต่อไป คือ การให้ยาละลายลิ่มเลือด (thrombolytic  agent ได้แก่ ทีพีเอ (tPA/recombinant tissuetype plasminogen activator) หรือสเตรปโตไคเนส (streptokinase) ฉีดเข้าทางหลอดเลือดดำ (ซึ่งจะได้ผลดีเมื่อให้ภายใน 6 ชั่วโมงหลังเกิดอาการ) หรือไม่ก็อาจพิจารณาทำบอลลูนหรือผ่าตัดบายพาสแบบฉุกเฉิน

บางกรณี แพทย์อาจให้สารกันเลือดเป็นลิ่ม ได้แก่ เฮพารินชนิดน้ำหนักโมเลกุลต่ำ (low molecular weight heparin/LMWH) เสริมในรายที่ให้ทีพีเอ (tPA) หรือทำบอลลูน

ใน 2-3 วันแรก ผู้ป่วยจำเป็นต้องนอนพักอยู่บนเตียง (ห้ามลงจากเตียง) ผู้ป่วยต้องงดสูบบุหรี่โดยเด็ดขาด แพทย์จะให้ยาระบายเพื่อไม่ให้ผู้ป่วยเบ่งถ่ายอุจจาระเพราะท้องผูก ให้ยาจิตประสาทเพื่อควบคุมภาวะวิตกกังวลหรือซึมเศร้า โดยทั่วไปหากไม่มีภาวะแทรกซ้อนผู้ป่วยจำเป็นต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาลนาน 5-7 วัน เมื่ออาการทุเลาดีแล้ว ก็จะเริ่มทำกายภาพบำบัดฟื้นฟูสภาพหัวใจให้แข็งแรง และให้ยารักษาแบบเดียวกับโรคหัวใจขาดเลือดชั่วขณะอย่างต่อเนื่องต่อไป

สำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจขาดเลือดชั่วขณะแบบไม่คงที่ แพทย์จะรับตัวไว้รักษาในโรงพยาบาลเพื่อเฝ้าสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด ให้ยาแบบเดียวกับโรคหัวใจขาดเลือดทั่วไป รวมทั้งให้สารกันเลือดเป็นลิ่ม (ได้แก่ เฮพาริน) และยาต้านเกล็ดเลือด (เช่น แอสไพริน ไทโคลพิดีน หรือโคลพิโดเกรล) ให้ยาปิดกั้นบีตา และให้ไนโตรกลีเซอรีนชนิดฉีดเข้าทางหลอดเลือดดำ เพื่อลดการทำงานของหัวใจ ถ้าไม่ตอบสนองต่อการรักษาทางยา ก็จะทำการถ่ายภาพรังสีหลอดเลือดหัวใจและทำบอลลูนหรือผ่าตัดบายพาส

ผลการรักษา ขึ้นกับความรุนแรงของโรค สภาพของผู้ป่วย โรคที่พบร่วม และวิธีรักษา

ในรายที่เป็นโรคหัวใจขาดเลือดชั่วขณะแบบเป็น ๆ หาย ๆ เรื้อรัง มักได้ผลการรักษาที่ดี การใช้แอสไพรินสามารถป้องกันไม่ให้กลายเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจตาย และลดการตายลงได้ ส่วนการทำบอลลูนและการผ่าตัดบายพาส ช่วยให้ผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงอยู่รอดปลอดภัยมากขึ้น

ปัจจัยที่ทำให้ผลการรักษาไม่สู้ดี ได้แก่ ผู้ป่วยอายุมาก เป็นเบาหวาน ความดันโลหิตสูง สูบบุหรี่ มีอาการรุนแรง มีภาวะแทรกซ้อน (เช่น หัวใจวาย)

ผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจขาดเลือดแบบไม่คงที่ ถ้าเริ่มมีกล้ามเนื้อหัวใจตายบางส่วน หรือมีความล่าช้าในการถ่ายภาพรังสีหลอดเลือดหัวใจและการบำบัดที่เหมาะสม ผลการรักษามักจะไม่ดี

ผู้ป่วยที่เป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน ถ้าเป็นรุนแรงหรือกล้ามเนื้อหัวใจถูกทำลายปริมาณมาก ก็มักจะเสียชีวิตอย่างรวดเร็วหรือทันทีทันใด ในรายที่สามารถมีชีวิตรอดได้ 2-3 วันหลังเกิดอาการก็มักจะฟื้นตัวจนเป็นปกติได้ ซึ่งบางรายอาจกำเริบซ้ำและเสียชีวิตภายใน 3-4 เดือนถึง 1 ปีต่อมา  ผู้ป่วยกลุ่มนี้มักมีอาการต่อเนื่อง เช่น เจ็บหน้าอกเป็นครั้งคราว หัวใจเต้นผิดจังหวะหรือภาวะหัวใจวาย มักพบอัตราตายและการเกิดภาวะแทรกซ้อนสูงในผู้ป่วยที่เป็นเบาหวาน หรือมีภาวะหัวใจห้องบนเต้นแผ่วระรัว ร่วมด้วย

ส่วนในรายที่ได้รับการทำบอลลูนหรือผ่าตัดบายพาส มักจะฟื้นสภาพได้ดี และมีชีวิตได้ยืนยาวขึ้น แต่บางรายก็อาจมีหลอดเลือดหัวใจตีบตันซ้ำ ซึ่งอาจต้องทำบอลลูนหรือผ่าตัดบายพาสซ้ำ

*การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจมีความไวในการวินิจฉัยโรคนี้ประมาณร้อยละ 50-75 หมายความว่า ประมาณร้อยละ 50-75 ของผู้ที่เป็นโรคหัวใจขาดเลือด ผลการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจจะบอกว่าผิดปกติ และประมาณร้อยละ 25-50 ผลการตรวจจะบอกว่าปกติ เรียกว่า ผลลบลวง (false negative) อาจทำให้วินิจฉัยผิดได้

**การขยายหลอดเลือดด้วยบอลลูน (percutaneous transluminal coronary angioplasty/PTCA) แพทย์จะใช้สายที่มีบอลลูน (balloon) อยู่ตรงปลาย สอดใส่เข้าหลอดเลือดแดงต้นขา (femoral artery) แล้วแยงขึ้นไปจนเข้าไปตรงบริเวณหลอดเลือดหัวใจที่ตีบตัน แล้วเป่าลมให้บอลลูนพองตัว ดันตะกรันท่อเลือดแดง (atheroma) ให้แฟบและทำการขยายหลอดเลือด

***การผ่าตัดบายพาส (bypass surgery หรือ coronary artery bypass grafting/CABG) เป็นการผ่าตัดโดยนำหลอดเลือดจากส่วนอื่น (เช่น หลอดเลือดขา) ไปต่อเชื่อมระหว่างหลอดเลือดหัวใจ (ส่วนที่ยังไม่มีการตีบตัน) กับหลอดเลือดแดงใหญ่

7
วัดถ้ำขวัญเมืองไหว้พระพุทธรูปประดิษฐานเชิญชวนใส่ชุดขาวหญิง บริกรรมภาวนากรรมฐาน 5 เป็นหลัก

วัดถ้ำขวัญเมืองเป็นวัดที่ตั้งอยู่บนภูเขาในจังหวัดชุมพร มีถ้ำขนาดใหญ่ที่เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปและพระบรมสารีริกธาตุ วัดนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดชุมพร วัดถ้ำขวัญเมืองเป็นวัดที่เงียบสงบเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใส่ชุดขาว ชุดขาวชาย ชุดขาวหญิง ชุดขาวปฏิบัติธรรม มาเที่ยววัดถ้ำขวัญเมืองปฏิบัติธรรมและแสวงหาความสงบภายใน

วัดแห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับการทำสมาธิและการเติบโตทางจิตวิญญาณ ซึ่งผู้เยี่ยมชมสามารถดื่มด่ำกับคำสอนของศาสนาพุทธได้ท่ามกลางธรรมชาติอันสวยงามของภาคใต้ของประเทศไทย

วัดที่แกะสลักด้วยธรรมชาติ
วัดถ้ำขวัญเมืองเป็นวัดที่มีความสวยงามท่ามกลางขุนเขาและถ้ำต่างๆ ชื่อของวัดซึ่งแปลว่า “ถ้ำแห่งจิตวิญญาณแห่งเมือง” สะท้อนให้เห็นถึงความผูกพันกับธรรมชาติ วัดนี้ตั้งอยู่ในถ้ำหินปูนบางส่วน ทำให้มีบรรยากาศที่สงบและน่าเกรงขาม เหมาะแก่การนั่งสมาธิ สภาพแวดล้อมที่เป็นธรรมชาติช่วยให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสกับธรรมชาติอีกครั้ง เป็นฉากหลังที่สมบูรณ์แบบสำหรับการไตร่ตรองและการทำสมาธิ

ค่ายปฏิบัติธรรมและปฏิบัติธรรม
วัดแห่งนี้จัดปฏิบัติธรรมและปฏิบัติธรรมเป็นประจำสำหรับทั้งคนในท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว การปฏิบัติธรรมเหล่านี้เปิดโอกาสให้ผู้ปฏิบัติได้เข้าใจคำสอนของพุทธศาสนาและเทคนิคการทำสมาธิอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น ภายใต้คำแนะนำของพระภิกษุผู้มีประสบการณ์ ผู้ปฏิบัติธรรมจะได้รับการสนับสนุนให้ละทิ้งสิ่งรบกวน ฝึกสติ และพัฒนาจิตใจให้แจ่มใส

ผู้เยี่ยมชมสามารถเข้าร่วมการทำสมาธิเป็นกลุ่มหรือขอคำแนะนำแบบตัวต่อตัวจากพระสงฆ์ในวัดได้ วัดแห่งนี้ปฏิบัติตามประเพณีพุทธศาสนานิกายเถรวาท โดยเน้นที่ความเรียบง่าย วินัย และสติสัมปชัญญะ ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของการปฏิบัติธรรม

ความเงียบสงบของวัดถ้ำ
บรรยากาศภายในถ้ำอันเป็นเอกลักษณ์ช่วยเพิ่มประสบการณ์ทางจิตวิญญาณให้กับผู้มาเยือน ภายในถ้ำ นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสได้ถึงอากาศที่เย็นสบายและสงบเงียบ ซึ่งสร้างบรรยากาศที่เงียบสงบ เหมาะแก่การนั่งสมาธิ นอกจากนี้ ภายในถ้ำยังมีพระพุทธรูปหลายองค์ประดิษฐานอยู่ และมักมีเสียงสวดมนต์และคำอธิษฐานมากมาย ช่วยเพิ่มบรรยากาศแห่งความสงบและความศรัทธา

เสียงธรรมชาติในถ้ำช่วยขยายเสียงสวดมนต์ สร้างประสบการณ์อันลึกลับให้กับผู้เข้าร่วมพิธีกรรมของวัดหรือผู้ที่เพียงแค่นั่งสมาธิอย่างเงียบๆ ผู้เยี่ยมชมจำนวนมากพบว่าบรรยากาศอันเงียบสงบในถ้ำช่วยให้พวกเขามีสมาธิและปฏิบัติธรรมได้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น

สำรวจพื้นที่โดยรอบ
นอกจากการปฏิบัติธรรมแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถสำรวจธรรมชาติที่สวยงามโดยรอบวัดได้อีกด้วย ภูเขา ป่าไม้ และลำธารในบริเวณใกล้เคียงเป็นสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบเหมาะแก่การเดินจงกรมหรือเพียงแค่เพลิดเพลินไปกับความงามอันเงียบสงบของธรรมชาติ บริเวณวัดได้รับการดูแลอย่างดี มีสวนและทางเดินที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนและไตร่ตรอง

วิธีการเดินทาง
วัดถ้ำขวัญเมืองตั้งอยู่ในจังหวัดชุมพร ซึ่งเดินทางไปได้สะดวกด้วยรถประจำทาง รถไฟ หรือรถยนต์จากกรุงเทพฯ หรือพื้นที่อื่นๆ ในภาคใต้ของประเทศไทย วัดอยู่ห่างจากตัวเมืองชุมพรเพียงระยะทางสั้นๆ จึงถือเป็นจุดหมายปลายทางที่สะดวกสำหรับผู้ที่เดินทางไปทั่วภูมิภาคนี้

ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ปฏิบัติธรรมที่มากประสบการณ์หรือผู้ที่ต้องการค้นหาความสงบในธรรมชาติ วัดถ้ำขวัญเมืองเป็นโอกาสพิเศษในการฝึกปฏิบัติธรรมในสถานที่ที่สวยงามและเงียบสงบ การผสมผสานระหว่างการชี้แนะทางจิตวิญญาณ ความงามตามธรรมชาติ และสภาพแวดล้อมอันเงียบสงบของวัดถ้ำทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางในอุดมคติสำหรับผู้ที่แสวงหาการเติบโตทางจิตวิญญาณและความสงบในใจกลางจังหวัดชุมพร

8
รีวิวบ้านใหม่ 2025: เดอะ แพลนท์ ปิ่นเกล้า - กาญจนาฯ (The Plant Pinklao - Kanjanaphisek)

เราจะพาไปชมบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ กับโครงการ เดอะ แพลนท์ ปิ่นเกล้า - กาญจนาฯ (ทางด่วนศรีรัช) จากพฤกษา ตัวโครงการตั้งอยู่ในซอยวัดพระเงินที่ติดกับถนนทางคู่ขนานวงแหวนกาญจนาภิเษก ใกล้ทางด่วนศรีรัช ทำให้การเดินทางนั้นเป็นเรื่องง่ายทีเดียวค่ะ ตัวบ้านของโครงการเป็นบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ มีให้เลือกถึง 3 แบบ พร้อมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกที่เรียกว่าครบครัน ทั้งสระว่ายน้ำ ฟิตเนส สวนสาธารณะ และระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง เกริ่นมาคร่าวๆ แล้ว เราไปดูรายละเอียดกันต่อเลยค่ะ

ข้อมูลโครงการ
เจ้าของโครงการ : บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)
ที่ตั้งโครงการ : ซอยวัดพระเงิน ถนนบางม่วง-บางคูลัด ตำบลศาลากลาง อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี 11130
ขนาดพื้นที่โครงการ : 35 ไร่
จำนวนบ้าน : 167 หลัง
ขนาดที่ดิน : ตั้งแต่ 50 ตร.ว.
ขนาดพื้นที่ใช้สอย : ตั้งแต่ 135 - 210 ตารางเมตร
ปัจจุบันมีแบบบ้านทั้งหมด 3 แบบ
สิ่งอำนวยความสะดวก : คลับเฮ้าส์, สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, สวนสาธารณะ, รปภ. 24 ชม., CCTV ทางเข้า-ออกโครงการ และเข้า-ออกโครงการด้วยระบบ Key Card Access
ราคาเริ่มต้น 4.28 ล้านบาท

เจ้าของและผู้พัฒนาโครงการ
บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทมหาชน และจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยตั้งแต่ปี 2548 บริษัทฯ ก่อตั้งเริ่มแรกขึ้นเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2536 มีทุนจดทะเบียนปัจจุบันอยู่ที่ 2,232.5 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิสำหรับปี 2556 อยู่ที่ 5,801 ล้านบาท บริษัทฯ ได้รับการจัดอันดับเครดิตองค์กรล่าสุด (27 มีนาคม 2557) โดย TRIS Rating อยู่ที่ "A" บริษัทฯ ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั้งแนวราบ (ทาวน์เฮ้าส์และบ้านเดี่ยว) และแนวสูง (คอนโดมิเนียม) ทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศ (เช่น อินเดีย) ณ สิ้นปี 2556 บริษัทฯ มีโครงการที่พัฒนาอยู่ หรือกำลังขายในประเทศไทยอยู่ทั้งสิ้นกว่า 163 โครงการ ประกอบไปด้วย ทาวน์เฮ้าส์ 92 โครงการ บ้านเดี่ยว 42 โครงการ และคอนโดมิเนียม 29 โครงการ พฤกษาฯ เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่มีโรงงานสร้างบ้านแบบ Precast (พรีคาสท์ - สร้างบ้านโดยใช้เทคโนโลยีชิ้นส่วนคอนกรีตเสริมเหล็กสำเร็จรูป) เป็นของตัวเองแบบครบวงจร

ทำเลที่ตั้ง
โครงการตั้งอยู่ในซอยวัดพระเงิน ถนนบางม่วง-บางคูลัด ตำบลศาลากลาง อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี 11130

โรงเรียนเปรมประชาวัฒนา ห่างจากโครงการประมาณ 4.4 กม.

โรงเรียนเทพศิรินทร์ นนทบุรี ห่างจากโครงการประมาณ 5.9 กม.

โรงพยาบาลบางใหญ่ ห่างจากโครงการประมาณ 5.9 กม.

Plus Mall ห่างจากโครงการประมาณ 6.0 กม.

เซ็นทรัล เวสต์เกต ห่างจากโครงการประมาณ 9.7 กม.

การเดินทาง
1. เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว
การเดินทางด้วยรถยนต์สามารถมาได้หลายเส้นทาง ตามตัวอย่างเส้นทางดังต่อไปนี้ค่ะ
ขาเข้าโครงการ เส้นทางที่ 1 มาจากทางด่วนศรีรัช เข้าซอยวัดพระเงิน

จากทางด่วนศรีรัช ให้ออกทางไปถนนกาญจนาภิเษก (บางแค-บางบัวทอง)

ลงมาแล้วจะผ่านกับศาลยุติธรรมตลิ่งชัน

ไปตามป้ายถนนกาญจนาภิเษก เข้าเลนกลางค่ะ

จากนั้นให้ไปตามป้ายทางไปบางบัวทอง ซึ่งอยู่เลนขวา

จะเป็นทางแยกหน้าตาแบบนี้ค่ะ

พอขับมาเรื่อยๆ ก็จะเริ่มเข้าสู่ถนนทางคู่ขนานวงแหวนฯ ฝั่งตะวันตก (กาญจนาภิเษก) เข้าเขตจังหวัดนนทบุรีพอดี

ให้ไปตามป้ายบางบัวทอง ซึ่งก็คือตรงไป

วิ่งตรงมายังทางคู่ขนานวงแหวนฯ เรื่อยๆ จะผ่าน Plus Mall

จาก Plus mall ตรงมาอีกประมาณ 1.5 กม. จะเจอป้ายบอกทางเข้าวัดพระเงิน
ซึ่งก็คือซอยทางเข้าโครงการ ให้ชิดซ้ายเตรียมเลี้ยวเข้าไปได้เลยค่ะ

เลี้ยวซ้ายเข้าซอยวัดพระเงิน

ด้านในเป็นถนน 2 เลน ขับตรงไปเรื่อยๆ

บริเวณแยกตลาดพระเงินให้เลี้ยวขวา

ผ่านวัดพระเงิน ตรงไปตามถนนเรื่อย ๆ เลยค่ะ

จากวัดพระเงิน ตรงมาอีก 3.0 กม. จะเจอโครงการอยู่ทางซ้ายมือ
(รวมระยะทางจากทางเข้าซอยวัดพระเงินถึงโครงการประมาณ 4.7 กม.)
ขาเข้าโครงการ เส้นทางที่ 2 มาทางถนนเพชรเกษม เข้าซอยวัดส้มเกลี้ยง

ขาออกโครงการ เส้นทางที่ 1 ออกโครงการไปขึ้นทางด่วนศรีรัช

ขาออกโครงการ เส้นทางที่ 2 ออกทางซอยวัดส้มเกลี้ยง

2. รถสาธารณะอื่นๆ
เดินทางด้วยรถไฟฟ้าสายสีม่วง
โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ มีระยะทางประมาณ 23 กิโลเมตร โดยจะก่อสร้างเป็นรถไฟฟ้าแบบยกระดับ (ลอยฟ้า) ตลอดทั้งสาย มีสถานีจำนวน 16 สถานี ได้แก่ สถานีคลองบางไผ่, สถานีตลาดบางใหญ่, สถานีสามแยกบางใหญ่, สถานีบางพลู, สถานีบางรักใหญ่, สถานีบางรักน้อยท่าอิฐ, สถานีไทรม้า, สถานีสะพานพระนั่งเกล้า, สถานีแยกนนทบุรี 1, สถานีศรีพรสวรรค์, สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี, สถานีกระทรวงสาธารณสุข, สถานีแยกติวานนท์, สถานีวงศ์สว่าง, สถานีบางซ่อน และสถานีเตาปูน โดยมีสถานีเตาปูนเป็นสถานีเปลี่ยนเส้นทาง (Interchange Station) ระหว่างสายสีม่วงและสายสีน้ำเงิน โดยสถานีที่ใกล้กับโครงการมากที่สุดคือสถานีตลาดบางใหญ่ อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 9 กิโลเมตรเมตร

สภาพแวดล้อมใกล้เคียง
ตัวโครงการตั้งอยู่ในซอยวัดพระเงิน ที่สามารถออกไปสู่ถนนใหญ่อย่างถนนทางคู่ขนานวงแหวนฯ ได้ ภายในซอยวัดพระเงินค่อนข้างมีความเป็นชุมชนอยู่เยอะ ทั้งโรงเรียน วัด และสถานที่ราชการ นอกจากนี้ยังมีหมู่บ้านจัดสรรอยู่หลายโครงการ รวมไปถึงพื้นที่ดินเปล่าที่รอการพัฒนาอยู่อีกมากมาย บริเวณต้นซอยวัดพระเงินมีร้านค้า ร้านอาหารอยู่เยอะ ทำให้ช่วงนี้ค่อนข้างคึกคัก มีทั้ง 7-11 และ Tesco Lotus Express คอยบริการตลอด 24 ชั่วโมง

ถนนด้านหน้าโครงการฝั่งซ้ายมือ

ถนนด้านหน้าโครงการฝั่งขวา
แบบบ้าน และตัวโครงการโดยรวม
โครงการ เดอะ แพลนท์ ปิ่นเกล้า - กาญจนาฯ (The Plant Pinklao - Kanjanaphisek) เป็นโครงการบ้านเดี่ยว Natural Garden Style ขนาด 2 ชั้น ตั้งอยู่ในซอยวัดพระเงิน มีจำนวนบ้านรวมทั้งหมด 167 หลัง สร้างอยู่บนพื้นที่โครงการขนาด 35 ไร่ มีแบบบ้านทั้งหมด 3 แบบ ภายในมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งคลับเฮ้าส์ ฟิตเนส สระว่ายน้ำ และสวนสาธารณะ ในช่วงที่ทีมงานเข้าไปเยี่ยมชมกำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง รั้วรอบโครงการสูง 2 เมตร ระแนงสูงเพิ่มอีก 1.20 เมตร ถนนหลักกว้าง 16-12 เมตร ส่วนถนนในซอยกว้าง 8 เมตร มี Sale Office ตั้งอยู่หลังแรกฝั่งขวามือ มองเห็นได้ชัดเจน ส่วนประตูโครงการมีซุ้มประตูทางเข้า-ออกหลักเพียงทางเดียวค่ะ

ด้านหน้าตรงทางเข้า-ออกของโครงการติดหน้าถนนวัดพระเงิน จะมองเห็นซุ้มประตูทางเข้าโครงการขนาดใหญ่

ฝั่งขวาของประตูทางเข้ามีป้ายชื่อโครงการ The Plant Pinklao - Kanjanaphisek

ซุ้มประตูทางเข้า-ออกหลักของโครงการ ออกแบบมาให้เข้ากับธรรมชาติได้ดีทีเดียว มีความโดดเด่นสีน้ำตาล
เหมือนสีต้นไม้ มีหลังคากันแดด-ฝนให้ ด้วยรูปทรงหลังคาเหมือนหลังคาบ้านทำให้ประตูทางเข้าตรงนี้ดูอบอุ่น

ทางเข้าโครงการ

ประตูทางเข้าแยกระหว่างลูกบ้าน (Residential) กับคนภายนอก (Visitor) ที่มาติดต่อ ข้อดีคือลูกบ้านที่อาศัยใน
โครงการมีความสะดวกยิ่งขึ้น เพราะไม่ต้องเสียเวลารอคนภายนอกที่กำลังแลกบัตรค่ะ ที่ซุ้มประตูมี รปภ.
ไม้กั้นกระดก CCTV จุดสแกนคีย์การ์ดเข้า-ออกโครงการ มีห้องสำหรับรปภ. กั้นตรงกลางระหว่างทางเข้าและทางออก

ลูกบ้านสามารถแตะบัตรที่เครื่องนี้ แล้วไม้กั้นก็จะเปิดอัตโนมัติค่ะ

ถ่ายย้อนกลับไปยังซุ้มประตูทางเข้า

ถนนหลักกว้าง 16 เมตร ไปจนถึงวงเวียนแรก หลังจากนั้นกว้าง 12 เมตรจนเกือบสุดโครงการ
ส่วนถนนในซอยย่อยกว้าง 8 เมตรค่ะ

Sales Office อยู่หลังแรกด้านขวามือ และบ้านตัวอย่างทั้ง 3 แบบก็อยู่ถัดจากนี้ค่ะ

แบบบ้านพร้อม Floor Plan ของทางโครงการปัจจุบันมี 3 แบบ ดังนี้

1) แบบบ้าน The Forest - บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 58 ตร.ว. ขนาดพื้นที่ใช้สอย 210 ตร.ม. 3 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ พื้นที่อเนกประสงค์ชั้นบนและชั้นล่าง พื้นที่นั่งเล่น ส่วนรับประทานอาหาร พื้นที่เตรียมอาหาร 1 ห้องครัว ที่จอดรถ 2 คัน

2) แบบบ้าน The Mist - บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 52 ตร.ว. ขนาดพื้นที่ใช้สอย 165 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ พื้นที่อเนกประสงค์ชั้นบนและชั้นล่าง พื้นที่นั่งเล่น ส่วนรับประทานอาหาร พื้นที่เตรียมอาหาร 1 ห้องครัว ที่จอดรถ 2 คัน

3) แบบบ้าน The Cloud - บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 50 ตร.ว. ขนาดพื้นที่ใช้สอย 135 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ พื้นที่นั่งเล่น ส่วนรับประทานอาหาร 1 ห้องครัว ที่จอดรถ 2 คัน

ส่วนกลางและสิ่งอำนวยความสะดวก
คลับเฮ้าส์
สระว่ายน้ำคลอรีน ระบบน้ำล้น กว้าง 5.5 x 19 ม. แยกสระเด็กลึก 60 ซม. และสระผู้ใหญ่ลึก 110 ซม.
สวนสาธารณะ
รปภ. 24 ชม.
CCTV ทางเข้า-ออกโครงการ และเข้า-ออกโครงการด้วยระบบ Key Card Access

ทางเข้าด้านหน้าโครงการ มีไม้กั้นกระดก

แบ่งออกเป็น 2 ช่องทางเข้า สำหรับลูกบ้านฝั่งซ้ายมือ และผู้มาเยือนโครงการฝั่งขวามือ

ฝั่งซ้ายมือลูกบ้านสามารถใช้ระบบ Scan Access ผ่านเข้าไปได้เลย
ส่วนขวามือต้องแลกบัตรกับทาง รปภ. พร้อมกล้อง CCTV

ภาพจำลองคลับเฮ้าส์ ที่มีทั้งฟินเนส สระคลอรีน ระบบน้ำล้น กว้าง 5.5 x 19 ม.
แยกสระเด็กลึก 60 ซม. และสระผู้ใหญ่ลึก 110 ซม. และยังมีสวนสาธารณะด้วยนะคะ

บ้าน เดอะ แพลนท์ ปิ่นเกล้า - กาญจนาฯ สามารถแบ่งขนาดบ้านออกเป็น 3 ขนาด คือ The Forest (ขนาดใหญ่), The Mist (ขนาดกลาง) และ The Cloud (ขนาดเล็ก) ณ วันที่ทีมงานเข้าเยี่ยมชมทางโครงการมีบ้านตัวอย่างที่ตกแต่งแล้วให้เลือกชมกันครบทุกแบบ วันนี้ทีมงาน CheckRaka.com เลยขอนำภาพบ้านตัวอย่างที่มีชื่อว่า The Mist ซึ่งเป็นแบบบ้านที่มีขนาดกลาง มาให้ชมกันค่ะ

แบบบ้าน The Mist เป็นแบบบ้านที่มีขนาดกลาง ขนาดที่ดินเริ่มต้น 52 ตร.ว. ขนาดพื้นที่ใช้สอย 165 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ พื้นที่อเนกประสงค์ชั้นบนและชั้นล่าง พื้นที่นั่งเล่น ส่วนรับประทานอาหาร พื้นที่เตรียมอาหาร 1 ห้องครัว ที่จอดรถ 2 คัน โดยทางโครงการมีบ้านตัวอย่างทั้งที่ตกแต่งแล้ว และแบบบ้านเปล่าตามที่ขายจริงไว้ให้เลือกชมกันค่ะ

มาชมแปลนบ้านชั้นล่าง กันก่อนเลยนะคะ

บ้านเปล่ามาตรฐานที่ใช้ส่งมอบลูกค้า รั้วด้านหน้าเป็นเหล็กโปร่ง ก่อผนังทึบบางส่วน รั้วสูง 1.20 เมตร
ทางโครงการจะลงต้นไม้ใหญ่ให้ทุกหลัง แต่ละหลังให้ไม่เท่ากัน สำหรับบ้านแบบนี้ลงต้นไม้ให้ 2 ต้น
และยังปูหญ้าที่ฟุตบาทด้านหน้าให้ด้วยค่ะ

ประตูหน้าบ้านเป็นประตูบานพับเหล็กโปร่งทาสี ขนาดความสูงพอๆ กับรั้ว

กำแพงหน้าบ้านมีถังขยะแบบฝังกำแพงมาให้ เปิดทิ้งจากข้างในบ้านได้สะดวกดีค่ะ

หน้าตาเต็มๆ ของแบบบ้าน The Mist บ้านตัวอย่าง 2 ชั้น
สไตล์ Modern Elegance บ้านโทนสีเทาม่วง ให้ความรู้สึกหรูหรา

พื้นลานจอดรถในร่มพื้นคอนกรีตขัดหยาบลาดยาวไปจนถึงประตูหน้าบ้าน มีระแนงกันสาดจากหลังคาปกติให้เล็กน้อย
จอดรถได้ 2 คัน มีประตูทางเข้าจากที่จอดรถให้

บ้านเปล่าที่ใช้ส่งมอบลูกค้าจะจัดสวน ปูหญ้า ลงต้นไม้ใหญ่ให้ประมาณนี้ แต่ดีไซน์สวนในแต่ละหลังอาจจะแตกต่างกันไป

ทางเข้าหลักของบ้าน ไฟด้านหน้าเป็นไฟดาวน์ไลท์

ด้านข้างบ้านมีพื้นที่กว้างทีเดียว เนื้อที่ในแต่ละหลังมีความแตกต่างกันนะคะ แล้วแต่การแบ่งแปลงของโครงการ
บ้านที่นี่ทุกหลังสามารถเดินได้รอบบ้าน ความสูงของรั้วระหว่างบ้าน 1.50 ม.

ทางเข้าหลักของบ้าน เฉลียงหน้าบ้านทำสเต็ปบันไดขึ้นไป 2 ขั้น พื้นปูกระเบื้องลายตามที่เห็น
ประตูบานเลื่อนคู่เปิดเข้า-ออกได้สะดวก กรอบประตูอลูมิเนียมอบขาว กระจกเขียวตัดแสงทั้งหลัง

รางประตูบานเลื่อน

ในตัวบ้านเป็นโถงกว้าง พื้นชั้นล่างปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ 60 x 60 ซม. ชั้นล่างมีความสูงประมาณ 2.6 ม.
ไฟเป็นไฟดาวน์ไลท์ ฝ้าที่ให้เป็นฝ้าเรียบ ส่วนผนังบ้านทาสีขาวค่ะ

ฝั่งขวามือคือส่วนถัดไปของบ้าน ประกอบไปด้วย ส่วนรับประทานอาหาร
พื้นที่เตรียมอาหาร ห้องครัว และห้องน้ำชั้นล่าง

ถ่ายจากด้านหลังย้อนไปด้านหน้าบ้าน

ส่วนนี้ไว้จัดเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร สามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 6 ที่ได้สบาย
มีหน้าต่างบานเลื่อนขนาดใหญ่

ตรงข้ามกันคือบันไดทางขึ้นชั้นบน พื้นที่ด้านหน้าห้องครัวสามารถจัดเป็นพื้นที่เตรียมอาหารได้ค่ะ

ฟังก์ชั่นบ้านส่วนที่เหลือนี้ประกอบไปด้วย ห้องครัว ห้องน้ำชั้นล่าง และประตูเปิดออกไปที่จอดรถ

เปิดประตูออกไปที่จอดรถ

ติดกับประตูเปิดออกไปที่จอดรถ คือ ห้องน้ำชั้นล่าง มีฟังก์ชันให้ครบ ทั้งอ่างล้างมือ
โถสุขภัณฑ์ ฝักบัว มีกระจกนิรภัยกั้นแยกส่วนเปียก/แห้งให้ และมีบานเลื่อนระบายอากาศให้ 1 บาน
สุขภัณฑ์ทั้งหมดเป็นของ Kholer, Englefield และ Karat

เจาะวัสดุภายในห้องน้ำ

ส่วนอาบน้ำซึ่งเป็นส่วนเปียกก่อธรณีกั้นให้

สำหรับห้องครัวบ้านที่ส่งมอบลูกค้าจะเป็นห้องเปล่า มีหน้าต่างบานเลื่อนสำหรับระบายอากาศให้ 1 บานเล็ก
ประตูด้านหลังสามารถเปิดออกไปลานซักล้างหลังบ้านได้ค่ะ

พื้นที่ซักล้างหลังบ้านจะเทคอนกรีตขัดหยาบให้ประมาณ 2 เมตร ด้านหลังบ้านสามารถเดินทะลุไปรอบๆ บ้านได้
บ้านที่นี่จะติดต

9
ตรวจอาการด้วยตนเอง: อหิวาต์ (Cholera)

อหิวาต์ (อหิวาตกโรค โรคอุจจาระร่วงอย่างแรง ก็เรียก) เป็นโรคอุจจาระร่วงเฉียบพลันที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่ง ซึ่งสามารถแพร่กระจายได้รวดเร็ว

ในสมัยก่อนพบว่าการระบาดแต่ละครั้งมีผู้ป่วยเสียชีวิตเป็นร้อยเป็นพัน จึงมีชื่อเรียกกันมาแต่โบราณว่า โรคห่า

ในปัจจุบันโรคนี้ลดความรุนแรงลง และพบระบาดน้อยลง มีรายงานโรคนี้ตามจังหวัดชายฝั่งทะเลภาคตะวันออกและภาคใต้ พบประปรายทางภาคอีสานและภาคเหนือ โรคนี้พบในเด็กน้อยกว่าผู้ใหญ่ มักพบในคนอายุมากกว่า 15 ปีขึ้นไป สามารถพบได้ประปรายทุกเดือนตลอดทั้งปี มักพบในถิ่นที่การสุขาภิบาลยังไม่ดี และในหมู่คนที่กินอาหารที่ไม่ได้ปรุงให้สุกหรือขาดสุขนิสัยที่ดี

สาเหตุ

เกิดจากเชื้ออหิวาต์ ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่มีชื่อว่า วิบริโอคอเลอรา (Vibrio cholerae) เชื้ออหิวาต์มีอยู่หลายชนิด ตัวก่อโรคที่สำคัญในปัจจุบัน ได้แก่ ชนิดเอลทอร์ (EI Tor)* กับวิบริโอคอเลอรา O139**

เชื้ออหิวาต์สามารถมีชีวิตอยู่ได้ทั้งในน้ำเค็มและน้ำจืด คนเราสามารถติดเชื้อชนิดนี้โดยการกินอาหารทะเลแบบดิบ ๆ ดื่มน้ำหรือกินอาหาร รวมทั้งน้ำแข็ง ไอศกรีมที่ปนเปื้อนเชื้อ โดยมีแมลงวันหรือมือเป็นสื่อกลางในการนำพาเชื้อ แล้วผู้ติดเชื้อ (ผู้ป่วยหรือผู้ที่เป็นพาหะ)*** ก็จะปล่อยเชื้อออกทางอุจจาระไปอยู่ตามดินและน้ำ ซึ่งแพร่กระจายสู่ผู้อื่นในวงกว้างจนเกิดการระบาดได้

นอกจากนี้ อาจติดจากผู้ติดเชื้อโดยการสัมผัสใกล้ชิด เชื้อสามารถติดผ่านมือเข้าไปในปากได้

เชื้ออหิวาต์จะรุกล้ำเข้าไปที่เยื่อบุลำไส้เล็กแล้วปล่อยสารพิษ (ชื่อ cholera toxin) ทำให้ลำไส้เล็กหลั่งน้ำและเกลือแร่ออกมาในอุจจาระจำนวนมาก เกิดอาการถ่ายเป็นน้ำ

ระยะฟักตัว 6 ชั่วโมง ถึง 5 วัน (ส่วนใหญ่ประมาณ 24-48 ชั่วโมง)

*เริ่มพบในปี พ.ศ. 2504 อยู่ในกลุ่ม วิบริโอคอเลอรา O1 ซึ่งแบ่งเป็นชนิดคลาสสิก (classic ซึ่งเป็นตัวก่อโรคระบาดร้ายแรงมาแต่เดิม) กับเอลทอร์ (ซึ่งก่อโรคที่มีความรุนแรงน้อยลง)
**เริ่มพบในปี พ.ศ. 2535
***ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่จะไม่มีอาการแสดง แต่เป็นพาหะแพร่เชื้อให้ผู้อื่น เชื้อมักอยู่ในอุจจาระช่วงสั้น ๆ ประมาณ 1-2 สัปดาห์ ก็จะถูกขับออกหมด ส่วนน้อยที่อาจมีเชื้อในอุจจาระเป็นเวลานาน

อาการ

ส่วนใหญ่จะมีอาการเล็กน้อยถึงปานกลาง โดยมีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียนเล็กน้อย ถ่ายเหลวหรือถ่ายเป็นน้ำบ่อยครั้ง คล้ายโรคท้องเดินทั่วไป หรืออาหารเป็นพิษ มักหายได้เองภายใน 1-5 วัน

ในรายที่เป็นมากมักมีอาการถ่ายเป็นน้ำรุนแรง อุจจาระมักจะไหลพุ่ง โดยไม่มีอาการปวดท้อง (ส่วนน้อยที่อาจมีอาการปวดบิดในท้อง) และมีอาการอาเจียนตามมาโดยที่ไม่มีอาการคลื่นไส้นำมาก่อน (ส่วนน้อยอาจมีอาการคลื่นไส้) ระยะแรกอุจจาระมีเนื้อปน ลักษณะเป็นน้ำสีเหลือง แต่ต่อมาจะกลายเป็นน้ำล้วน ๆ บางรายอุจจาระมีลักษณะเหมือนน้ำซาวข้าว ไม่มีกลิ่นอุจจาระ อาจมีกลิ่นคาวเล็กน้อย ผู้ป่วยอาจถ่ายวันละหลายครั้งถึงหลายสิบครั้ง หรือไหลพุ่งตลอดเวลา ส่วนอาการอาเจียนนั้น แรกเริ่มออกเป็นเศษอาหาร ต่อมาเป็นน้ำ และน้ำซาวข้าว

หากเป็นรุนแรงมักถ่ายเป็นน้ำมากกว่า 250 มล./กก./วัน และเกิดภาวะขาดน้ำรุนแรงและช็อกอย่างรวดเร็ว (ภายใน 4-18 ชั่วโมง) ผู้ป่วยจะมีอาการเสียงแหบแห้ง เป็นตะคริว ตัวเย็น เหงื่อออก ปัสสาวะออกน้อย หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีมักจะเสียชีวิตภายในเวลาสั้น ๆ

ภาวะแทรกซ้อน

ที่สำคัญ ได้แก่ ภาวะขาดน้ำรุนแรงและช็อก ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะไตวายเฉียบพลันตามมา

นอกจากนี้ ยังทำให้ร่างกายสูญเสียเกลือแร่ เกิดอาการตะคริว ภาวะเลือดเป็นกรด และภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงอื่น ๆ ตามมา

บางรายอาจมีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำเนื่องจากกินอาหารไม่ได้

หญิงตั้งครรภ์อาจแท้ง หรือคลอดก่อนกำหนด

การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยเบื้องต้นจากอาการ ประวัติการเจ็บป่วย และการตรวจร่างกาย ซึ่งมักตรวจพบภาวะขาดน้ำตั้งแต่ขนาดเล็กน้อยถึงรุนแรง อาจมีไข้ต่ำ ๆ ในรายที่เป็นรุนแรงจะพบภาวะช็อก หายใจเร็วจากภาวะเลือดเป็นกรด ในเด็กอาจพบว่ามีไข้ ชัก ซึม หรือหมดสติ

แพทย์จะวินิจฉัยให้แน่ชัด โดยการตรวจอุจจาระและเพาะเชื้อจากอุจจาระ (rectal swab culture) และตรวจเลือดดูความสมดุลของอิเล็กโทรไลต์

การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

1. ในรายที่อาการไม่รุนแรง ไม่มีภาวะขาดน้ำรุนแรง และยังกินอาหารหรือดื่มน้ำได้ดี ให้การรักษาแบบอาการท้องเดินหรืออาหารเป็นพิษทั่วไป คือให้กินสารละลายน้ำตาลเกลือแร่ เก็บอุจจาระส่งเพาะเชื้อ เมื่อทราบผลการตรวจว่าเป็นโรคนี้ หรือสงสัยว่าอาจเป็นโรคนี้ เช่น เป็นผู้สัมผัสผู้ป่วยอหิวาต์ หรืออยู่ในพื้นที่ที่มีการระบาดของโรค แพทย์จะให้ยาปฏิชีวนะกำจัดเชื้ออหิวาต์

2. ในรายที่เป็นรุนแรง เช่น ถ่ายเป็นน้ำรุนแรง อาเจียนรุนแรง กินไม่ได้ หรือมีภาวะขาดน้ำรุนแรง แพทย์จะรับตัวไว้รักษาในโรงพยาบาล

นอกจากให้ยาปฏิชีวนะกำจัดเชื้ออหิวาต์ แพทย์จะทำการปรับดุลสารน้ำและเกลือแร่ โดยการให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ ในรูปของริงเกอร์แล็กเทต (Ringer lactate) หรืออะซีทาร์ (Acetar) ถ้าไม่มีอาจใช้น้ำเกลือนอร์มัล (NSS) แทน โดยให้ในปริมาณที่สามารถทดแทนให้เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย และให้กินโพแทสเซียมคลอไรด์ หรือให้ทางหลอดเลือดดำถ้าอาเจียน

3. แพทย์จะเลือกใช้ยาปฏิชีวนะในการรักษาโรคอหิวาต์อย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น เตตราไซคลีน ดอกซีไซคลีน โคไตรม็อกซาโซล นอร์ฟล็อกซาซิน อีริโทรไมซิน เป็นต้น

ผลการรักษา หากได้รับการรักษาได้ทันการ มักจะหายได้ภายใน 3-6 วัน หลังได้รับยาปฏิชีวนะ

เชื้อโรคอยู่ในอุจจาระผู้ติดเชื้อ ได้แก่ ผู้ป่วย (ที่มีอาการแสดง) กับพาหะ (ที่ไม่มีอาการแสดง) เมื่อถูกขับถ่ายออกมาก็สามารถแพร่กระจายไปยังผู้อื่น โดยการปนเปื้อนในแหล่งน้ำ (เช่น แม่น้ำ ลำคลอง ห้วย หนอง บึง) อาหาร น้ำดื่ม มือของผู้ติดเชื้อ (ที่ไม่ได้ล้างน้ำหลังถ่ายอุจจาระ) สิ่งของและสภาพแวดล้อมที่ถูกมือของผู้ติดเชื้อสัมผัส ทั้งนี้มีแมลงวันและแมลงสาบ (ที่ไต่ตอมอุจจาระของผู้ติดเชื้อ) เป็นพาหะนำเชื้อ

คนเราสามารถติดเชื้อเข้าสู่ร่างกายโดยทางใดทางหนึ่งดังนี้

1. ดื่มน้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติแบบดิบ ๆ บางกรณี (เช่น บิดอะมีบา ท้องเดินจากเชื้อไกอาร์เดีย) ก็อาจเกิดจากการดื่มน้ำประปา หรือกลืนน้ำในสระว่ายน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อ

2. กินอาหารหรือดื่มน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อ การปนเปื้อนเชื้ออาจเกิดจากข้อใดข้อหนึ่ง ดังนี้

    แมลงวัน (และบางครั้งแมลงสาบ) เป็นพาหะนำเชื้อ
    มือของผู้ติดเชื้อ หรือมือของคนใกล้ชิดที่ปนเปื้อนเชื้อ (จากการสัมผัสมือของผู้ติดเชื้อ หรือสิ่งของ หรือสภาพแวดล้อมที่มีเชื้อปนเปื้อน) ไปจับต้องอาหารหรือน้ำดื่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ประกอบอาหาร ผู้ให้บริการด้านอาหาร และสมาชิกในครอบครัวที่เป็นพาหะ จะเป็นแหล่งแพร่เชื้อที่สำคัญ เพราะอาจไม่ระวังเนื่องจากไม่มีอาการแสดง
    ปนเปื้อนดินหรือน้ำที่มีเชื้อ รวมทั้งผักผลไม้ที่ปลูกโดยการใส่ปุ๋ยที่ทำจากอุจจาระคน และผักผลไม้ที่ล้างด้วยน้ำที่มีเชื้อปนเปื้อน

3. ติดต่อจากคนสู่คน โดยข้อใดข้อหนึ่ง ดังนี้

    การสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อภายในบ้าน สถานรับเลี้ยงเด็ก สถานพักฟื้น โรงพยาบาล โรงเรียน โรงงาน สถานประกอบการ ค่ายทหาร ค่ายกิจกรรมต่าง ๆ โดยการใช้มือสัมผัสถูกมือของผู้ติดเชื้อโดยตรง หรือสัมผัสถูกสิ่งของหรือสภาพแวดล้อมที่มีเชื้อปนเปื้อน แล้วนำมือที่เปื้อนเชื้อนั้นสัมผัสปากของตนเองโดยตรง หรือไปเปื้อนถูกอาหารหรือน้ำดื่มอีกต่อหนึ่ง
    การมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการใช้ปากสัมผัสถูกทวารหนักหรืออวัยวะเพศของผู้ติดเชื้อ ซึ่งนิยมปฏิบัติในหมู่ชายรักร่วมเพศ การติดเชื้อโดยวิธีนี้อาจเกิดกับเชื้อโรคบางชนิดที่มีระยะของการเป็นพาหะนาน ๆ เช่น เชื้ออะมีบา เชื้อไกอาร์เดีย บิดชิเกลลา เป็นต้น

การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น ผู้ป่วยท้องเดินที่มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ที่เป็นอหิวาต์ หรืออยู่ในพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคนี้ ควรดื่มสารละลายน้ำตาลเกลือแร่ และรีบไปพบแพทย์โดยเร็ว

หากตรวจพบว่าเป็นอหิวาต์ ควรดูแลรักษาและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์

ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินที่บ้าน ถ้ากินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา (เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม คลื่นไส้ อาเจียน หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ) ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด

การป้องกัน

1. ดื่มน้ำต้มสุก หรือน้ำสะอาด ไม่ดื่มน้ำคลอง หรือดื่มน้ำบ่อแบบดิบ ๆ ไม่กินน้ำแข็งหรือไอศกรีมที่เตรียมไม่สะอาด กินอาหารที่ปรุงสุกใหม่ ๆ และไม่มีแมลงวันตอม ไม่กินอาหารทะเลแบบดิบ ๆ ล้างมือด้วยน้ำกับสบู่ก่อนเตรียมอาหาร ก่อนเปิบข้าว และหลังการถ่ายอุจจาระทุกครั้ง ควรถ่ายอุจจาระลงในส้วมที่ถูกสุขลักษณะ อย่าถ่ายลงคลองหรือตามพื้นดิน

2. สำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้ ควรนำอุจจาระและสิ่งที่ผู้ป่วยอาเจียนออกมาไปเทใส่ส้วมหรือฝังดินให้มิดชิด อย่าเทตามพื้นหรือลงแม่น้ำลำคลอง ส่วนเสื้อผ้าของผู้ป่วยที่แปดเปื้อนเชื้อ ห้ามนำไปซักในแม่น้ำลำคลอง ควรแช่ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ หรือนำไปฝังหรือเผาเสีย

3. ในปัจจุบันไม่แนะนำให้ใช้ยาปฏิชีวนะแก่ชุมชนเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค เนื่องจากไม่ได้ผลและทำให้เชื้อดื้อยา แต่อาจพิจารณาให้ในกลุ่มคนขนาดเล็ก เช่น ในเรือนจำ หรือในชุมชนที่มีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคเกินร้อยละ 20

4. ปัจจุบันมีวัคซีนป้องกันอหิวาต์ชนิดใหม่ในรูปของการกินทางปาก (oral vaccine) ให้ 2 ครั้งห่างกัน 10-14 วัน ซึ่งสามารถใช้ป้องกันได้ผลดี แพทย์จะเลือกใช้ในบางกรณี เช่น ผู้ที่ต้องเดินทางเข้าไปในพื้นที่ที่มีการระบาดของโรค กลุ่มคนที่มีความเสี่ยงสูงต่อการระบาดของโรค เป็นต้น

ข้อแนะนำ

1. ผู้ป่วยที่มีอาการอุจจาระร่วงรุนแรง หรือสงสัยเป็นอหิวาต์ (เช่น เป็นผู้สัมผัสโรค หรืออยู่ในพื้นที่ที่มีการระบาดของโรค) แพทย์จะทำการเก็บอุจจาระส่งเพาะหาเชื้อ ถ้าพบว่าเป็นอหิวาต์จะได้ดำเนินการควบคุมโรคไม่ให้เกิดการระบาด

2. สำหรับผู้สัมผัสโรค แพทย์จะทำการเก็บอุจจาระส่งเพาะหาเชื้อ และเฝ้าสังเกตอาการอย่างน้อย 5 วัน ถ้าพบว่าเป็นพาหะก็ให้ยาปฏิชีวนะเพื่อลดความรุนแรงของโรค และลดการแพร่กระจายเชื้อ

10
จัดฟันบางนา: เครื่องมือจัดฟันแบบใส หากใส่ดื่มกาแฟ จะทำให้เปลี่ยนสีหรือไม่ ?

เป็นที่ทราบกันดีว่าการจัดฟันแบบใส Invisalign เป็นการจัดฟันที่สามารถถอดเครื่องมืออกได้ขณะที่รับประทานอาหารหรือดื่มเครื่องดื่ม ยกเว้นน้ำเปล่าที่สามารถดื่มได้เลยโดยไม่ต้องถอดเครื่องมือ เครื่องมือการจัดฟันแบบใส จะเป็นพอลิเมอร์บางๆ ใสๆ มาใส่ครอบฟันเพื่อปรับโครงสร้าง ตำแหน่ง และการเรียงตัวของฟัน แทนการใส่เหล็กจัดฟันที่เรามักจะเห็นได้ทั่วไป

โดยผู้เข้ารับการรักษาจะต้องใส่ตลอดเวลา เป็นประจำอย่างน้อย 20-22 ชั่วโมงต่อวัน เพื่อให้การรักษามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นและเป็นไปตามแผนการรักษาของทันตแพทย์ที่ได้วางแผนการรักษาด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ แต่สำหรับการใส่เครื่องมือจัดฟัน ในกลุ่มผู้ที่ชอบดื่มกาแฟ และต้องดื่มกาแฟตลอดทั้งวัน กก็จะไม่ค่อยสะดวกสักเท่าไหร่ เพราะต้องคอยถอดเครื่องมือ เข้าออกตลอดทั้งวัน

เพราะเครื่องมือการจัดฟัน หากผู้เข้ารับการจัดฟันใส่ดื่มกาแฟ จะทำให้คราบกาแฟจะไปติดบนเครื่องมือซึ่งจะทำให้สีของเครื่องมือเปลี่ยน เครื่องมือการจัดฟันแบบใส Invisalign อาจจะไม่สะดวกกับคอกาแฟสักเท่าไหร่ เพราะต้องคอยถอดเข้าถอดออกตลอดขณะจิบกาแฟ

ซึ่งผู้เข้ารับการรักษาจะต้องมีวินัยมากๆในการใส่เครื่องมือ หากละเลยไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำของทันตแพทย์ ก็อาจจะทำให้การวางแผนและผลการรักษา เกิดความคลาดเคลื่อนได้ โดย ชุดเครื่องมือจัดฟันที่ออกแบบมาพิเศษตามรูปฟันแต่ละคน จะต้องเปลี่ยนชุดเครื่องมือจัดฟันทุก 2 สัปดาห์ ซึ่งจำนวนชุดเครื่องมือที่ใช้จะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับสภาพฟันของเรา แต่หากใส่เครื่องมือขณะดื่มกาแฟ จะทำให้สีเครื่องมือเปลี่ยน และเมื่อใส่เข้าไปในช่องปาก ก็จะทำให้สีฟันดูเปลี่ยนไปด้วย

การทำความสะอาดเครื่องมือจัดฟันแบบใส จะต้องทำให้ความสะอาดให้สะอาดมาก โดยเฉพาะการที่ผู้เข้ารับการจัดฟันต้องใส่มันไปในระยะยาว มีหลายคนใช้แปรงสีฟันกับยาสีฟันทำความสะอาดเครื่องมือจัดฟัน และออกแรงขัดที่แรงเกินไป อาจจะทำให้เกิดรอยบนเครื่องมือจัดฟันได้ วิธีที่ถูกต้องในการทำความสะอาดเครื่องมือก็คือ ใช้แค่น้ำในอุณหภูมิปกติกับสบู่ทำความสะอาดก็พอแล้ว

แค่นี้อุปกรณ์ของคุณก็พร้อมใช้งาน และหลีกเลี่ยงการทำให้เกิดคราบเหลือง หรือคราบต่างๆที่จะทำให้เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค เพราะอาจจะทำให้ฟันผุ หรือเกิดปัญหาอื่นๆตามมาได้ ทั้งนี้ควรรักษาความสะอาดสุขภาพช่องปากและฟันให้ถูกต้องเพื่อสุขภาพช่องปากที่ดี

11
แท็บเล็ต 2025 แอปเปิล APPLE iPad Pro13" (2024) (256GB) Wi-Fi
52,900 บาท

แอปเปิล APPLE iPad Pro13" (2024) (256GB) Wi-Fi

รายละเอียดเบื้องต้น
   ยี่ห้อ-รุ่น            แอปเปิล APPLE iPad Pro13" (2024) (256GB) Wi-Fi
   ราคากลาง          52,900 บาท
   จำนวนซิม              -
   สี                    Silver, Black
   ความถี่-เครือข่าย
   ขนาด-น้ำหนัก                   ยาว 215.5 x กว้าง 281.6 x หนา 5.1 มม., น้ำหนัก 579 กรัม
   ความจุข้อมูลภายใน-ROM     256 GB
   ความจุข้อมูลภายนอกสูงสุด      -
   แบตเตอรี่                          N/A

ชนิดจอ
   ชนิดจอ                          Ultra XDR Retina OLED
   ขนาด-ความละเอียด            13 นิ้ว, 2,064 x 2,752 px
   รายละเอียดอื่น                 

กล้องถ่ายรูป
   ขนาด-ความละเอียด                กล้องหลัง (12 Mpx), กล้องหน้า (12 Mpx)
   ความละเอียดของภาพภ่ายสูงสุด
   คุณสมบัติ                              -

ระบบปฏิบัติการ
   หน่วยประมวลผล (CPU)             Apple M4
   หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU)
   หน่วยความจำ (RAM)                 8 GB
   ระบบเชื่อมต่อภายนอก                   -
   ระบบรับส่งข้อความ                       -
   การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต               WiFi

12
หมอออนไลน์: โลหิตเป็นพิษในทารกแรกเกิด (Septicemia of newborn)

มักพบในทารกที่มารดามีประวัติน้ำเดิน (ถุงน้ำคร่ำแตก) ก่อนคลอดหลายชั่วโมง มารดาเป็นไข้ มีโรคติดเชื้อก่อนคลอด มีประวัติการตกเลือด หรือครรภ์เป็นพิษ รวมทั้งทารกที่คลอดผิดปกติ (คลอดยาก คลอดก่อนกำหนด หรือน้ำหนักน้อยกว่าปกติ) ถือเป็นภาวะร้ายแรง ถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

สาเหตุ

เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย จนลุกลามเข้ากระแสเลือด และกระจายไปทั่วร่างกาย


อาการ

เด็กจะมีอาการซึม ไม่ยอมดูดนม อาจมีไข้หรือไม่มีก็ได้

อาจมีอาการท้องอืด ท้องเสีย อาเจียน หอบ ชัก ซีด มีจ้ำเขียวขึ้นตามตัว

อาการดีซ่านมักเกิดขึ้นภายใน 24 ชั่วโมงหลังคลอด หรือ 1 สัปดาห์หลังคลอด


ภาวะแทรกซ้อน

ภาวะไตวาย ช็อก ภาวะเลือดจับเป็นลิ่มทั่วร่างกาย (DIC)


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการและการตรวจพบไข้ ซีด เหลือง มีจุดแดงจ้ำเขียวตามตัว ตับโต ม้ามโต

แพทย์จะทำการตรวจเพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุ เช่น ตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ เพาะเชื้อ เอกซเรย์


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะรับตัวไว้ในโรงพยาบาล ให้ยาปฏิชีวนะ เช่น ฉีดเพนิซิลลินขนาดสูง ๆ หรือฉีดเจนตาไมซิน (gentamicin) คาร์เบนิซิลลิน (carbenicillin) เซฟาโลสปอริน (cephalosporin) หรือยาปฏิชีวนะอื่น ๆ ตามชนิดของเชื้อที่เป็นสาเหตุ

นอกจากนี้จะให้การรักษาตามอาการ เช่น ให้น้ำเกลือ ให้เลือด ทำการล้างไต (dialysis) เป็นต้น


การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น ทารกมีอาการไข้ ซึม ไม่ยอมดูดนม ตาเหลืองตัวเหลือง มีอาการท้องอืด ท้องเสีย อาเจียน หอบ ชัก ซีด หรือมีจ้ำเขียวขึ้นตามตัว ควรปรึกษาแพทย์โดยเร็ว

เมื่อตรวจพบว่าเป็นโลหิตเป็นพิษในทารกแรกเกิด ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา กินยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด


ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    หลังออกจากโรงพยาบาลมีอาการไข้กำเริบ ซึม ไม่ยอมดูดนม หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ ที่ทำให้รู้สึกวิตกกังวล
    ขาดยา ยาหาย หรือกินยาไม่ได้
    ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินต่อที่บ้าน กินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม ปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้ อาเจียน จุดแดงจ้ำเขียว หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ

การป้องกัน

ทารกแรกเกิดที่มีอาการไม่สบายซึ่งสงสัยเป็นโรคติดเชื้อ (เช่น มีไข้ ซึม ไม่ยอมดูดนม ท้องเสีย อาเจียน เป็นต้น) ควรไปพบแพทย์เพื่อการตรวจรักษาแต่เนิ่น ๆ จนหายขาด ก็จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโลหิตเป็นพิษแทรกซ้อนได้

13
motor expo 2025 All-New Mitsubishi XFORCE HEV เปิดตัวแล้วกับ 3 ทางเลือก ในราคา ราคา 8.99 แสน - 1.08 ล้านบาท ยกระดับประสบการณ์การขับขี่

บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ตอกย้ำความเป็นผู้นำรถยนต์ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริดด้วยการเปิดตัว ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี สู่ตลาดประเทศไทยเป็นครั้งแรก รถคอมแพ็กต์เอสยูวีรุ่นใหม่ล่าสุด ที่โดดเด่นด้วยดีไซน์ เร้าใจกับสมรรถนะ ครบครันด้วยความสะดวกสบาย และเพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย จากอีกขั้นของการพัฒนา MITSUBISHI e:MOTION ที่ผสาน 3 เทคโนโลยีที่ล้ำสมัยที่สุดของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส เพื่อยกระดับประสบการณ์การขับขี่ให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น

มร. เรียวอิจิ อินาบะ (ที่ 2 จากขวา) กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด, มร. มาซาฮิโระ อิโตะ (ที่ 2 จากซ้าย) Chief Product Specialist, บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น, มร. นาโอกิ อากิตะ (ซ้ายสุด) Program Design Director บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น และ นายสาโรจน์ มะอาจเลิศ (ขวาสุด) กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ สายงานขายและบริการหลังการขาย บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด

เพื่อสร้างความมั่นใจในคุณภาพที่ยอดเยี่ยม ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี จะผลิตที่โรงงานมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย และจัดจำหน่ายผ่านทางเครือข่ายผู้จำหน่ายที่ได้รับแต่งตั้งอย่างเป็นทางการกว่า 190 แห่งทั่วประเทศ เปิดตัวครั้งแรกที่ประเทศอินโดนีเซียในเดือนสิงหาคม 2566 ในรุ่นเครื่องยนต์สันดาปภายใน และขยายตลาดสู่เวียดนาม ฟิลิปปินส์ ละตินอเมริกา แอฟริกา ตะวันออกกลาง และภูมิภาคอื่น ๆ ในปี 2567 มีความสำคัญในฐานะรถยนต์เชิงกลยุทธ์ระดับโลกของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส

ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี จะมาเสริมทัพกลุ่มรถยนต์ฟูลไฮบริดของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ต่อยอดความสำเร็จจาก มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ เอชอีวี และ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี ที่เปิดตัวในประเทศไทย เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา รถคอมแพ็กต์เอสยูวีรุ่นใหม่นี้ เป็นรถที่จะสร้างความน่าดึงดูดใจให้กับทุกท่าน เพราะมาพร้อมระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริดเจเนอเรชันใหม่ล่าสุด ซึ่งได้รับการถ่ายทอดและพัฒนาจากระบบขับเคลื่อนแบบปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) อันเลื่องชื่อของมิตซูบิชิ โดดเด่นด้วยอัตราการประหยัดน้ำมันที่ยอดเยี่ยม เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และอัตราเร่งที่ทรงพลัง

พร้อมโหมดการขับขี่ 7 รูปแบบ (7-Drive Mode) ผสานการทำงานระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง (Active Yaw Control – AYC) แบบ All-Wheel Control  ที่จะช่วยคำนวณการส่งกำลังจากระบบขับเคลื่อนและแรงเบรกลงสู่แต่ละล้อ เพื่อให้ล้อทั้งคู่หน้า-คู่หลัง ทำงานอย่างสัมพันธ์กัน ให้ประสิทธิภาพสูงสุดในการรักษาสมดุลของตัวรถขณะเข้าโค้ง เพื่อความปลอดภัย และมั่นใจได้ในทุกเส้นทาง
 
“นี่เป็นครั้งแรกที่ ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี ได้รับการติดตั้งระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด รุ่นใหม่ล่าสุดของเรา และเราภาคภูมิใจ ที่รถยนต์รุ่นนี้ ผลิตที่ประเทศไทย ณ โรงงานแหลมฉบังของเรา เราใช้เวลาหลายเดือน ในการทดสอบรถยนต์รุ่นนี้ รวมระยะทางทั้งหมดกว่า 100,000 กิโลเมตร ทั่วประเทศไทย ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา เพื่อประเมินความทนทาน และสมรรถนะในการขับขี่ ทีมทดสอบของเราได้รวบรวมข้อมูล และความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ต่างๆ ซึ่งวิศวกรฝ่ายวิจัยและพัฒนาของเรา ได้นำไปใช้ในการปรับแต่ง และพัฒนารถรุ่นนี้ ให้ดียิ่งขึ้น ขั้นตอนสุดท้าย คือการทดสอบความทนทานของรถ และปรับแต่งระบบกันสะเทือนที่ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษ เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานบนสภาพถนนที่หลากหลายของประเทศไทย ให้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ สำหรับ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส เราให้ความสำคัญสูงสุดกับคุณภาพ และประสบการณ์การขับขี่เสมอมา และเราไม่เคยลดทอนมาตรฐานเหล่านี้เลยครับ เราจึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี จะเป็นโมเดลที่สร้างความตื่นเต้น และน่าประทับใจ พร้อมกับได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากลูกค้าชาวไทย” มร. เรียวอิจิ อินาบะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว

คุณสมบัติเด่นของ ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี  สามารถแบ่งได้เป็น 4 แกนสำคัญ อันประกอบไปด้วย ดีไซน์  สมรรถนะ ระบบความปลอดภัย  และ ความสะดวกสบายภายในห้องโดยสาร

ดีไซน์
รูปลักษณ์ภายนอก ออกแบบภายใต้คอนเซปต์ ‘Silky and Solid’ แนวคิดการออกแบบใหม่จากมิตซูบิชิ เรียบหรู แต่ทรงพลัง สะท้อนผ่านรูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยว โดดเด่น เปรียบสมือนไอคอนนิคแห่งยุค ด้วยไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED และไฟท้าย LED สี Smoked จัดเรียงเป็นรูปตัวที เสริมให้เห็นถึงความกว้างและความรู้สึกมั่นคงของตัวรถ

ล้ออัลลอยขนาดใหญ่ 18 นิ้ว ดีไซน์สวยงามที่คำนึงถึงแอโรไดนามิค เสริมด้วยซุ้มล้อที่เลือกใช้วัสดุ และสีที่ตัดกับสีรถ ทำให้ ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี มีบุคลิกของรถเอสยูวีอย่างชัดเจน

รูปลักษณ์ภายใน ออกแบบโดยใช้วัสดุที่ให้ความรู้สึกหรูหรา ประณีตในทุกรายละเอียด คอนเซปต์ตามแนวคิด “Horizontal Axis” มอบทัศนวิสัยที่ดีเยี่ยม ภายในห้องโดยสารสีทูโทน พร้อมการตกแต่งด้วยผ้าแบบพิเศษกันน้ำ และคราบสิ่งสกปรก มาพร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่จะช่วยสร้างสุนทรียภาพให้คุณตลอดการเดินทาง

สมรรถนะ
ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี มาพร้อมประสบการณ์การขับขี่เหนือระดับ MITSUBISHI e:MOTION ซึ่งเป็นการผสานสามเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าที่สุดของมิตซูบิชิ ได้แก่ ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริดเจนเนอเรชันใหม่ล่าสุด โหมดการขับขี่ 7 รูปแบบ และระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง (AYC)

ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริดเจเนอเรชันใหม่ ทำงานผ่านมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงและแบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูงที่ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษสำหรับรถยนต์ไฮบริด โดยใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร DOHC 16  วาล์ว MIVEC เป็นการพัฒนาต่อยอดจากรถยนต์ฟูลไฮบริดรุ่นแรก สู่ระบบที่ได้รับการปรับปรุงใหม่เพื่อให้มีประสิทธิภาพการส่งกำลังที่ดียิ่งขึ้น มาพร้อมกับระบบส่งกำลัง 2-Speed Transaxle ใหม่ ปรับเปลี่ยนการทำงานของระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติตามการขับขี่และสภาพถนน ให้อัตราเร่งที่ดี และนุ่มนวล อีกทั้งยังเพิ่มกลไกตัดการเชื่อมต่อของมอเตอร์ ช่วยลดการสูญเสียพลังงาน ส่งผลให้รถมีอัตราประหยัดน้ำมันขั้นสูงสุด 24.4 กิโลเมตร/ลิตร1  มีระยะทางการขับขี่ยาวที่สุดในคลาสต่อน้ำมันหนึ่งถัง  ทำงานเงียบและมีอัตราเร่งที่ยอดเยี่ยมทั้งในการขับขี่บนไฮเวย์ และในเส้นทางที่เป็นเนินลาดชัน

โหมดการขับขี่ 7 รูปแบบ (7-Drive Mode) ไม่ว่าเส้นทางแบบไหนก็ไม่เป็นอุปสรรคด้วยโหมดการขับขี่ 7 รูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น Normal (ถนนทั่วไป) Wet (ถนนเปียก) Gravel (ถนนลูกรัง) Tarmac (ถนนลาดยาง) Mud (ถนนโคลน) และอีก 2 ทางเลือกพลังงานทั้ง Charge (โหมดการชาร์จ) และ EV Priority (โหมดพลังงานไฟฟ้า 100%) โดยผู้ขับขี่สามารถเลือกเปลี่ยนโหมดการขับขี่ด้วยตนเองตามสภาพถนน สภาพภูมิอากาศ หรือรูปแบบการใช้งานที่ต้องการ
ระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง หรือ AYC (Active Yaw Control)  เทคโนโลยีจากรถแข่งแรลลี่คาร์ของมิตซูบิชิ ทำงานโดยคำนวณการส่งกำลังลงที่ล้อซ้าย-ล้อขวา ให้หมุนสัมพันธ์กัน ขณะที่รถเข้าโค้ง เพื่อสร้างสมดุลให้กับตัวรถ ทำให้สามารถขับผ่านทางโค้งได้อย่างแม่นยำ ปลอดภัย และมั่นใจในทุกสถานการณ์
ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี ยังใช้ ช่วงล่าง ที่ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษ ให้เหมาะกับทุกสภาพถนนในประเทศไทย ซึ่งผ่านการทดสอบมาแล้วกว่า 100,000 กิโลเมตร

ระบบความปลอดภัย 
เทคโนโลยีความปลอดภัย Diamond Sense จัดเต็มด้วยเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่ หรือ ADAS ที่จะตรวจสอบสภาพแวดล้อมรอบตัวรถแบบ 360 องศา ทำงานอย่างแม่นยำผ่านการทำงานของกล้อง เรดาห์ และเซนเซอร์ ไม่ว่าจะเป็น
กล้องมองภาพรอบคันพร้อมเส้นกะระยะ และระบบตรวจจับการเคลื่อนไหว (MAM with MOD)
ระบบเตือนเมื่อรถด้านหน้าออกตัวหรือเคลื่อนที่ไปด้านหน้า (LCDN)
ระบบเตือนจุดอับสายตา และระบบเตือนขณะเปลี่ยนเลน (BSW with LCA)
ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว (FCM)
ระบบล็อกความเร็วแบบแปรผันอัตโนมัติถึงจุดหยุดนิ่ง (ACC)
ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (AHB)
ระบบเตือนด้านหลังขณะถอยออกจากช่องจอด (RCTA)
ระบบเบรก ABS ระบบกระจายแรงเบรก ระบบเสริมแรงเบรก และถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง ถูกติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่นย่อย

ความสะดวกสบายภายในห้องโดยสาร 
ยกระดับการเดินทางของคุณ ให้รู้สึกผ่อนคลายในแบบพรีเมียมด้วย

ห้องโดยสารขนาดใหญ่ที่สุดในรถระดับเดียวกัน พื้นที่เหนือศีรษะ พื้นที่หัวไหล่ และพื้นที่วางขาที่กว้าง ทำให้สามารถเดินทางได้พร้อมกันถึง 5 คน โดยไม่รู้สึกอึดอัด เบาะนั่งตอนหลังสามารถพับปรับแบบ 40:20:40 และปรับเอนได้ถึง 8 ระดับ พร้อมด้วยวัสดุหุ้มเบาะ “Heat Guard” ที่ช่วยสะท้อนความร้อนจากแสงแดด

ไดนามิค ซาวด์ ยามาฮ่า พรีเมียม (Dynamic Sound Yamaha Premium Sound System) เครื่องเสียงและระบบเสียงคุณภาพ พร้อมลำโพง 8 ตำแหน่ง ซึ่งได้รับการพัฒนาร่วมกับ ยามาฮ่า คอร์เปอเรชั่น ให้เสียงใส คมชัดในทุกมิติ ให้คุณเพลิดเพลินกับเพลงโปรดได้เสมือนฟังดนตรีแบบแยกชิ้น
ระบบฟอกอากาศ nanoe-X  ที่จะช่วยสร้างอากาศบริสุทธิ์ และยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย ลดอากาศเหนื่อยล้า สร้างความสดชื่นให้คุณตลอดการเดินทาง
ไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร (Ambient Light) บริเวณคอนโซลหน้าและแผงประตูด้านหน้า

ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี มีจำหน่าย 3 รุ่นย่อย ได้แก่

รุ่น Ignite ราคาเริ่มต้น 899,000 บาท มีสีภายนอกให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีขาวมุก White Diamond  สีเงิน Blade Silver และ สีเทา Graphite Grey

รุ่น Ultimate ราคาเริ่มต้น 1,039,000  บาท มีสีภายนอกให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีขาวมุก White Diamond หลังคาดำ สีเงิน Blade Silver สีเทา Graphite Gray  และสีดำ Jet Black Mica

รุ่น Ultimate X ราคาเริ่มต้น 1,089,000 บาท มีสีภายนอกให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีขาวมุก White Diamond หลังคาดำ สีเทา Graphite Gray หลังคาดำ สีเหลือง Energetic Yellow หลังคาดำ  สีแดง Spirit Red  หลังคาดำ และสีดำ Jet Black Mica
 
มาพร้อมการรับประกันระบบไฮบริดเป็นระยะเวลา 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง และรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริดนานสูงสุดถึง 10 ปี ไม่จำกัดระยะทาง หมดกังวลกับเรื่องอะไหล่และบริการหลังการขาย เพราะเป็นรถยนต์ที่ผลิตภายในประเทศ จึงสามารถจัดส่งอะไหล่ได้อย่างรวดเร็ว และพร้อมดูแลด้วยช่างเทคนิคที่ได้รับการฝึกอบรมอย่างเชี่ยวชาญกระจายอยู่กับเครือข่ายผู้จำหน่ายของมิตซูบิชิที่แข็งแกร่งทั่วประเทศ

พิเศษสำหรับลูกค้าที่ตัดสินใจเป็นเจ้าของ ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี โดยจองภายในวันที่ 31 พฤษภาคม 2568 และรับรถภายใน 31 กรกฎาคม 2568 จะได้รับสิทธิพิเศษภายใต้แคมเปญ “Early Bird Offers2  เฉพาะช่วงเปิดตัวเท่านั้น”  โดยลูกค้าจะได้รับบัตรของขวัญที่พักโรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา มูลค่า 10,000 บาท และรับฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง เป็นเวลา 1 ปี  พร้อมการรับประกันคุณภาพรถยนต์ 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ระยะใดจะถึงก่อน) ฟรีค่าแรงเช็กระยะนาน 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ระยะใดจะถึงก่อน)
 
พร้อมทั้งข้อเสนอพิเศษที่สามารถเลือกรับอัตราดอกเบี้ยต่ำเพียง 0.99% (เมื่อดาวน์ 25% และผ่อนชำระ 48 เดือน)2 กับสถาบันการเงินที่กำหนด และ สามารถเลือกรับแพ็กเกจบำรุงรักษา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง 5 ปี และสำหรับลูกค้าครอบครัว มิตซูบิชิ หรือลูกค้าเก่ามิตซูบิชิ รับส่วนลดเพิ่มสูงสุดถึง 30,000 บาท ผ่านแอฟพลิเคชัน M-Drive

ลูกค้าสามารถสัมผัสออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี ได้ที่งานโรดโชว์ทั่วประเทศ และ ที่บูธมิตซูบิชิ มอเตอร์ส (A9) ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ 1 - 3 เมืองทองธานี พร้อมพบกับรถยนต์รุ่นอื่น ๆ ของมิตซูบิชิ ที่ได้รับรางวัลการันตีคุณภาพมากมาย
 
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ มิตซูบิชิ คอลเซ็นเตอร์ หมายเลขโทรศัพท์ 02-079-9500 ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง และสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของรถยนต์มิตซูบิชิได้ทางเว็บไซต์ และทุกช่องทางโซเชียลเน็ตเวิร์ค MitsubishiMotorsTH

หมายเหตุ
1 ทดสอบตามมาตรฐาน NEDC อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ระบุในแคตตาล็อกคำนวณตามวิธีที่กำหนด และอาจ แตกต่างจากอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงในสภาพการขับขี่จริง
2 สำหรับรุ่น Ultimate และ Ultimate X

14
ชุดปฏิบัติธรรม ชุดแม่ชี เราเป็น โรงงานผลิตโดยตรง
ตัดเย็บปราณีต ทรงสวย เรียบหรู ดูสง่างดงาม
ผลิตจาก ผ้าฝ้ายแท้ 100% เกรดพรีเมียม

ชุดปฏิบัติธรรม ชุดขาวไปวัด ชุดแม่ชี
– ราคาแยกรายชิ้น –
ทอย้อมจากโรงงานอุตสาหกรรมชั้นดี
พร้อมส่งทุกไซส์
(กรณีสั่งตัดไซส์พิเศษ รอผลิต 7-10 วัน)
จัดส่งฟรี‼ เมื่อลูกค้าโอนชำระ
มีบริการเก็บเงินปลายทาง (+ตัวละ 10.-)

รับตัดชุดขาวไซส์ใหญ่พิเศษ
หมดกังวล หาไซส์ไม่ได้ ทางร้านเป็นโรงงานผลิตโดยตรง
สามารถสั่งตัดชุดได้ตามความต้องการ รอผลิต 7-10 วันทำการ

ร้านอริยทรัพย์ ชุดขาวปฏิบัติธรรม
เบอร์มือถือ :  092-926-4142 , 063-289-5356
Facebook : ชุดขาวปฎิบัติธรรม อริยทรัพย์
Instagram : ariyasub.shop
ID Line : @ariyasub (มี@)
เว็บไซด์: https://ariyasub99.com/
สนใจตัดชุดขาวไซซ์พิเศษ ติดต่อมาได้เลยค่ะ

สัมผัสประสบการณ์ใหม่
จากผ้าฝ้ายแท้ 100%
 นุ่มสบาย ไม่ร้อน ไม่ระคายคือง
ใส่ใจทุกขั้นตอนการผลิต ตั้งแต่การคัดสรรเนื้อผ้า
การตัดเย็บ รวมไปถึงการจัดส่งแบบปกติ
และจัดส่งเร่งด่วน (Kerry EMS Grab)

ชุดขาวปฎิบัติธรรม ชุดขาวหญิง ชุดแม่ชี คุณภาพ
เน้นคุณภาพใส่ใจทุกขั้นตอน ตัดเย็บงานผ้าฝ้ายคุณภาพ (cotton 100%)
สวมใส่สบาย ระบายความร้อนได้ดี ไม่อึดอัด

ชุดปฎิบัติธรรมชาย คุณภาพ
เน้นคุณภาพใส่ใจทุกขั้นตอน ตัดเย็บงานผ้าฝ้ายคุณภาพ (cotton 100%)
สวมใส่สบาย ระบายความร้อนได้ดี ไม่อึดอัด


ร้านอริยทรัพย์ ชุดขาวปฏิบัติธรรม
เบอร์มือถือ :  092-926-4142 , 063-289-5356
Facebook : ชุดขาวปฎิบัติธรรม อริยทรัพย์
Instagram : ariyasub.shop
ID Line : @ariyasub (มี@)
เว็บไซด์: https://ariyasub99.com/
สนใจตัดชุดขาวไซซ์พิเศษ ติดต่อมาได้เลยค่ะ


15
ปล่อยรถไมล์น้อย HONDA CR-V 1.5 ES AWD 2023 ราคาและโปรโมชั่นพิเศษ

ฮอนด้า Honda CR-V ES 4WD ปี 2023
HONDA CR-V ES 4WD สปอร์ตพรีเมียม เจเนอเรชันที่ 6 กระจังหน้าดีไซน์ใหม่สีดำ Piano Black และกระจังหน้าสีดำ Piano Black ตกแต่งด้วยโครเมียม (เฉพาะรุ่น E) กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว ปรับไฟฟ้าพร้อมพับเก็บอัตโนมัติ ไฟหน้าและไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED และไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ LED Sequential ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED ไฟท้ายแบบ LED เปิดมุมมองใหม่ที่พรีเมียมยิ่งขึ้นกับหลังคาซันรูฟไฟฟ้าแบบพาโนรามา (Panoramic Sunroof) สะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วย ฝากระโปรงท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี พร้อมระบบปิดอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Hands-Free Power Tailgate with Walk Away Close) เสาอากาศครีบฉลาม ปลอกท่อไอเสียสเตนเลสคู่ ล้ออัลลอย 18 นิ้ว

เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร Direct Injection DOHC VTEC TURBO 4 สูบ 16 วาล์ว ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Direct Injection และ Turbocharger กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที ผสานการทำงานกับเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง (CVT) และมีอัตราการประหยัดน้ำมันสูงสุด 14.3 กม./ลิตร* (รุ่น E) และรองรับน้ำมัน E85

โดยมีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีใหม่ สีน้ำเงินแคนยอนริเวอร์ (เมทัลลิก) เฉพาะรุ่น e:HEV RS 4WD และ e:HEV ES สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) เฉพาะรุ่น e:HEV RS 4WD สีขาวแพลทินัม (มุก) สีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก) สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก) และสีดำคริสตัล (มุก)

หมายเหตุ : รายละเอียดของรถยนตอ์าจมีการเปลี่ยนแปลงภายหลัง

รถผู้บริหาร รถทดลองขับ ไมล์น้อย ราคาและโปรโมชั่นพิเศษ

โปรโมชั่นพิเศษ
ตั้งแต่ 7 ก.พ. - 31 มี.ค. 2568
ซื้อวันนี้รับบัตรเติมน้ำมันฟรี มูลค่า 1,000 บาท

ราคาพิเศษ 1,268,000 บาท

สนใจสอบถา มรายละเอียดกดลิ้ง https://www.checkraka.com/flashdeal/car

รายละเอียดเบื้องต้น
   แบรนด์              Honda
   รุ่น                   ฮอนด้า Honda CR-V ES 4WD ปี 2023
   ประเภทรถ          รถอเนกประสงค์ SUV, รถไฮบริด
   ปีที่เปิดตัว          2023


หน้า: [1] 2 3 ... 27