ผู้เขียน หัวข้อ: วิธีดูแลหลังการจัดฟันเด็ก  (อ่าน 3 ครั้ง)

siritidaphon

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 638
  • ลงประกาศฟรี ลงโฆษณาฟรี โปรโมทสินค้าฟรี ซื้อ ขาย
    • ดูรายละเอียด
วิธีดูแลหลังการจัดฟันเด็ก
« เมื่อ: วันที่ 14 ตุลาคม 2025, 19:35:42 น. »
วิธีดูแลหลังการจัดฟันเด็ก

การดูแลหลังการจัดฟันเด็กมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จของการรักษาในระยะยาว เพื่อให้ฟันคงอยู่ในตำแหน่งที่จัดไว้ และรักษาสุขภาพช่องปากให้ดีตลอดช่วงการรักษาและหลังจากถอดเครื่องมือแล้ว ควรแบ่งการดูแลออกเป็น 3 ระยะหลัก:


1. การดูแลสุขอนามัยช่องปาก (ระหว่างใส่เครื่องมือ)

ในช่วงที่ลูกยังใส่เครื่องมือจัดฟันแบบติดแน่นอยู่ การดูแลความสะอาดเป็นเรื่องที่ท้าทายที่สุดและสำคัญที่สุด เพื่อป้องกันฟันผุและเหงือกอักเสบ:

แปรงฟันอย่างถูกวิธีและสม่ำเสมอ: ควรแปรงฟันหลังมื้ออาหารทุกครั้ง และใช้เทคนิคที่ทันตแพทย์แนะนำ โดยเน้นการทำความสะอาดบริเวณรอบๆ เครื่องมือจัดฟัน (Bracket) และลวด


ใช้เครื่องมือเสริม:

แปรงซอกฟัน (Interdental Brush): ใช้ทำความสะอาดใต้ลวดและระหว่างแบร็กเก็ตที่แปรงสีฟันเข้าไม่ถึง

ไหมขัดฟันสำหรับจัดฟัน (Superfloss หรือ Floss Threader): ใช้สอดไหมขัดฟันใต้ลวดเพื่อทำความสะอาดซอกฟันและตามแนวเหงือก

น้ำยาบ้วนปาก/เจลฟลูออไรด์: ใช้ตามคำแนะนำของทันตแพทย์ เพื่อเสริมความแข็งแรงให้เคลือบฟันและป้องกันฟันผุ

ดูแลอาการระคายเคือง: หากแบร็กเก็ตหรือลวดทิ่มแทงหรือเสียดสีกระพุ้งแก้ม ให้ใช้ ขี้ผึ้งจัดฟัน (Orthodontic Wax) ปิดทับบริเวณที่แหลมคมเพื่อลดการระคายเคือง


2. การดูแลเครื่องมือและอาหาร (ระหว่างใส่เครื่องมือ)

หลีกเลี่ยงอาหารต้องห้าม: งดอาหารที่แข็ง เหนียว หรือกรอบมาก เพราะอาจทำให้เครื่องมือหลุดหรือเสียหายได้ เช่น น้ำแข็ง ถั่ว ลูกอมแข็ง ข้าวเหนียวมะม่วง (ควรเลี่ยงส่วนที่เหนียว)

หั่นอาหารเป็นชิ้นเล็ก: ควรหั่นผัก ผลไม้ หรือเนื้อสัตว์ที่แข็งและเหนียวให้มีขนาดพอดีคำ ก่อนนำเข้าปากเพื่อป้องกันแรงกัดกระแทกเครื่องมือ

หลีกเลี่ยงน้ำหวานและน้ำอัดลม: เครื่องดื่มที่มีน้ำตาลและมีฤทธิ์เป็นกรดสูงจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดฟันผุรอบๆ เครื่องมือจัดฟัน

นัดหมายทันตแพทย์ตามกำหนด: พาบุตรหลานไปพบทันตแพทย์จัดฟันตามนัดอย่างเคร่งครัด เพื่อปรับเครื่องมือและตรวจสอบความคืบหน้าของการรักษา


3. การดูแลหลังถอดเครื่องมือ (Retainer Care)
นี่คือขั้นตอนที่สำคัญที่สุดหลังการจัดฟันเสร็จสิ้นแล้ว เพราะหากละเลย ฟันอาจเคลื่อนกลับไปยังตำแหน่งเดิมได้ (Relapse) ซึ่งทำให้การรักษาที่ผ่านมาสูญเปล่า:


การใส่รีเทนเนอร์ (Retainer)

ใส่ตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด: โดยทั่วไป ทันตแพทย์จะแนะนำให้ใส่ตลอดเวลา (ยกเว้นตอนทานอาหารและแปรงฟัน) ในช่วง 6 เดือนแรก จากนั้นจึงค่อยลดเหลือเฉพาะตอนนอน

วินัยเป็นสิ่งสำคัญ: ผู้ปกครองต้องกำกับดูแลให้ลูกใส่รีเทนเนอร์ให้ครบตามชั่วโมงที่กำหนด เพราะหากใส่ไม่สม่ำเสมอ ฟันจะเริ่มเคลื่อนและทำให้ใส่รีเทนเนอร์ไม่ได้หรือเจ็บปวด

หากทำหายหรือชำรุด: ให้รีบติดต่อทันตแพทย์ทันทีเพื่อทำรีเทนเนอร์อันใหม่ เพราะฟันจะเริ่มเคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วเมื่อไม่มีเครื่องมือยึดไว้


การทำความสะอาดรีเทนเนอร์

รีเทนเนอร์แบบถอดได้:

แปรงรีเทนเนอร์ทุกครั้งที่ถอดออกมา โดยใช้แปรงสีฟันแยกต่างหากและน้ำสบู่ หรือน้ำยาล้างรีเทนเนอร์โดยเฉพาะ

ห้ามทำความสะอาดด้วยน้ำร้อน เพราะจะทำให้พลาสติกหรืออะคริลิกเสียรูปทรง

รีเทนเนอร์แบบติดแน่น: ทำความสะอาดโดยใช้ไหมขัดฟันชนิดพิเศษ (Superfloss) หรือเครื่องฉีดน้ำทำความสะอาดฟัน (Water Flosser) เพื่อทำความสะอาดบริเวณใต้ลวดที่ติดอยู่ด้านหลังฟัน


การเก็บรักษา

เก็บในกล่องเสมอ: เมื่อถอดรีเทนเนอร์ออก จะต้องเก็บไว้ในกล่องเฉพาะที่ทันตแพทย์ให้มาเท่านั้น ห้ามห่อด้วยกระดาษทิชชูเด็ดขาด เพราะเสี่ยงต่อการถูกทิ้งหรือทำหายสูงมาก

ห่างจากความร้อน: เก็บให้ห่างจากความร้อนสูง เช่น ในรถยนต์ หรือใกล้เตาไฟ เพราะอาจทำให้รีเทนเนอร์บิดเบี้ยวได้

การนัดติดตามผล: แม้จะถอดเครื่องมือจัดฟันแล้ว ลูกยังต้องเข้าพบนัดติดตามผลกับทันตแพทย์จัดฟันเป็นระยะ เพื่อตรวจสอบการสบฟันและการใส่รีเทนเนอร์อย่างสม่ำเสมอ.