แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - siritidaphon

หน้า: [1] 2 3 ... 41
1
อาการของโรคข้อเสื่อม (Osteoarthritis) ข้อเข่าเสื่อม

สาเหตุ

มีการสึกกร่อนของกระดูกอ่อนที่บุอยู่บนผิวข้อกระดูก ซึ่งทำหน้าที่ลดแรงกระแทก เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างและสารเคมีภายในข้อ ในที่สุดทำให้ผิวข้อกระดูก 2 ด้านที่สึกกร่อนและขรุขระ มีการเบียดหรือเสียดสีกันโดยตรง และเกิดการอักเสบเรื้อรังภายในข้อกระดูก

ขณะเดียวกันก็เกิดกระบวนการซ่อมแซมของข้อ ทำให้มีหินปูนหรือปุ่มงอก (osteophytes) เกาะรอบ ๆ ผิวข้อ ซึ่งมีบางส่วนแตกหักหลุดเข้าไปในข้อ ขัดขวางการเคลื่อนไหวของข้อ การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดดังกล่าวทำให้มีอาการปวดข้อ ข้อติด ข้อแข็ง และเคลื่อนไหวลำบาก

พบว่ามีปัจจัยเสี่ยงหลายประการที่ทำให้เกิดโรคนี้ เช่น

    อายุและเพศ ภาวะข้อเสื่อมมักเกิดในผู้สูงอายุ ส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิงอายุมากกว่า 50 ปี หรือหลังวัยหมดประจำเดือน (เกี่ยวกับการพร่องฮอร์โมนเอสโทรเจน) แต่ในกลุ่มผู้ป่วยที่มีอายุน้อยกว่า 50 ปีจะพบในผู้ชายมากกว่า
    กรรมพันธุ์ ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคข้อเสื่อมชนิดหลายข้อ หรือข้อเสื่อมตั้งแต่อายุน้อย มีโอกาสที่จะเกิดข้อเสื่อมได้เร็วขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มที่มีข้อนิ้วมือเสื่อม จะพบว่าสามารถถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ได้มากกว่ากลุ่มที่มีข้อเข่าเสื่อม
    ความอ้วน ทำให้เกิดแรงกดดันต่อข้อเข่าและสะโพก เกิดการเสื่อมได้เร็วขึ้น นอกจากนี้เนื้อเยื่อไขมันส่วนเกินยังสร้างสารเคมี (กลุ่ม cytokines) ซึ่งทำให้เกิดการอักเสบภายในและรอบ ๆ ข้อ ทำให้ข้อถูกทำลาย
    การได้รับบาดเจ็บ (เช่น การวิ่ง การเล่นกีฬา) ที่มีการกระแทกต่อข้อเข่า
    การใช้ข้อมากหรือซ้ำ ๆ อยู่นาน ๆ เช่น การก้ม การนั่งงอเข่า การเดินขึ้นลงบันได การยืนนาน ๆ การยกของหนัก จะทำให้เกิดแรงกดดันต่อข้อต่อ เป็นเหตุให้ข้อเสื่อมได้
    กล้ามเนื้ออ่อนแอ เช่น กล้ามเนื้อต้นขา (quadriceps) อ่อนแอ อาจทำให้ข้อเข่าเสื่อมเร็ว
    เป็นโรคข้ออักเสบเรื้อรัง เช่น โรคปวดข้อรูมาตอยด์ เกาต์
    การติดเชื้อ เช่น ข้ออักเสบจากการติดเชื้อแบคทีเรีย
    ข้อมีความผิดปกติมาแต่กำเนิด

อาการ

ลักษณะที่พบได้ทั่วไปสำหรับโรคข้อเสื่อมไม่ว่าจะเกิดตรงตำแหน่งใดก็คือ ผู้ป่วยจะมีอาการปวดข้อ ข้อติด (ข้อแข็ง) หรือขยับได้ไม่สุด อาการปวดข้อมีลักษณะค่อยเป็นค่อยไป และเรื้อรังเป็นแรมเดือนแรมปี โดยมักไม่พบลักษณะอักเสบ (บวมแดงร้อน) ของข้อชัดเจน และไม่มีไข้ อาการปวดข้อมักจะไม่รุนแรง จะปวดเวลามีการใช้ข้อและทุเลาเมื่อพัก

อาการข้อแข็งหรือข้อติด ขยับลำบาก มักเกิดขึ้นเวลาตื่นนอนตอนเช้า หรือเมื่อหยุดพัก ไม่ได้ใช้ข้ออยู่ระยะหนึ่ง ซึ่งจะเป็นอยู่ไม่เกิน 30 นาที หลังจากมีการเคลื่อนไหวข้อก็จะทุเลาไปเอง

อาการปวดข้อและข้อติดมักจะเป็นเวลาอากาศเย็นชื้น หรืออากาศเปลี่ยนแปลง เนื่องจากแรงดันในข้อมีการเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย

นอกจากนี้ข้อที่เสื่อมแต่ละตำแหน่งยังมีลักษณะอาการเฉพาะดังนี้

    ข้อนิ้วมือเสื่อม ในระยะแรกจะมีอาการปวดและชาตามข้อ อาการปวดจะทุเลาไปได้เองภายใน 1 ปีหลังเริ่มมีอาการ และอาจกำเริบซ้ำหากมีการใช้ข้อมากเกิน นอกจากนี้มักเกิดปุ่มกระดูกที่ข้อต่อ เรียกว่า ปุ่มเฮเบอร์เดน (Heberden node) ซึ่งไม่มีอาการเจ็บปวด แต่อาจทำให้จำกัดการเคลื่อนไหวของข้อ และทำให้ดูไม่สวยงาม
    ข้อกระดูกสันหลังเสื่อม จะมีอาการปวดที่ต้นคอหรือปวดหลังตรงกระเบนเหน็บ และอาจมีอาการปวดร้าวลงมาที่แขนหรือขา (ดู "โพรงกระดูกสันหลังแคบ" และ "กระดูกคอเสื่อม")
    ข้อสะโพกเสื่อม มักมีอาการปวดสะโพก อาจปวดร้าวไปที่ขาหนีบ ก้น หรือเข่า เวลายืนหรือเดินนาน ๆ ขึ้นลงบันได และทุเลาเมื่อพัก ข้อสะโพกมีอาการติดขัดขยับได้ไม่เต็มที่
    ข้อเข่าเสื่อม (ซึ่งพบได้บ่อยในผู้หญิงอายุมากกว่า 50 ปี หรือคนอ้วน) อาจมีอาการที่เข่าเพียงข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้ง 2 ข้างก็ได้ จะมีอาการปวดเข่าเวลาเคลื่อนไหว และทุเลาเมื่อพัก จะปวดมากเวลายืนหรือเดินนาน ๆ เดินขึ้นลงบันได หรือเวลางอเข่า (เช่น นั่งยอง ๆ คุกเข่า พับเพียบ ขัดสมาธิ ซึ่งทำให้ผิวข้อที่ขรุขระเบียดกันมาก เกิดอาการปวดจนบางครั้งไม่สามารถงอเข่าได้) บางครั้งอาจมีอาการปวดที่บริเวณต้นขาและน่อง เนื่องจากกล้ามเนื้อเกร็งตัว เวลาเคลื่อนไหวข้อเข่าจะมีเสียงดังกรอบแกรบ

เนื่องจากมีการเสียดสีของผิวข้อที่ขรุขระ หรือมีอาการติดขัดเนื่องจากปุ่มงอกที่หักหลุดเข้าไปขัดอยู่ในข้อ

ผู้ป่วยมักมีอาการข้อติดข้อแข็งหลังตื่นนอนตอนเช้า หรือนั่งหรือยืนอยู่ในท่าเดิมนาน ๆ และหลังจากขยับข้อหรือลุกเดินอาการจะทุเลาไปภายในเวลาไม่เกิน 30 นาที

ระยะแรกจะมีอาการเป็น ๆ หาย ๆ แล้วค่อย ๆ เป็นมากขึ้น จนในที่สุดจะปวดรุนแรงหรือปวดตลอดเวลา

เมื่อข้อเข่าเสื่อมรุนแรง ผู้ป่วยจะมีอาการขาโก่ง เดินไม่ถนัด เดินคล้ายขาสั้นข้างยาวข้าง เนื่องจากลงน้ำหนักไม่เต็มที่ หรือเอนตัวเพราะเจ็บเข่าข้างหนึ่ง บางรายเดินกะเผลกหรือโยนตัวเอนไปมา หรืออาจงอและเหยียดเข่าลำบาก บางรายอาจมีกล้ามเนื้อขาลีบลง

ในรายที่มีกล้ามเนื้อรอบเข่าอ่อนแรง ก็จะมีอาการเข่าอ่อนเข่าทรุด อาจทำให้พลัดตกหกล้มได้


ภาวะแทรกซ้อน

ในรายที่ข้อกระดูกสันหลังเสื่อมรุนแรง อาจทำให้เกิดโพรงกระดูกสันหลังแคบ หรือกระดูกคองอกกดรากประสาท

ในรายที่ข้อเข่าและข้อสะโพกเสื่อมรุนแรง อาจทำให้เดินไม่ถนัด หรือเข่าอ่อน เข่าทรุด หกล้มได้


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการและสิ่งตรวจพบ ดังนี้

ในรายที่เริ่มมีข้อเสื่อมระยะแรก อาจตรวจไม่พบสิ่งผิดปกติชัดเจน

เมื่อเป็นเรื้อรังมานาน อาจตรวจพบข้อขยับได้ไม่สุดหรือข้อติดขัด เวลาจับข้อ (เข่าหรือสะโพก) โยกไปมาจะได้ยินเสียงดังกรอบแกรบ

อาจพบปุ่มกระดูก (ปุ่มเฮเบอร์เดน) ที่ข้อนิ้วมือหลายนิ้ว หรืออาจคลำได้ปุ่มงอกที่ข้อเข่า

สำหรับข้อเข่าที่เสื่อมรุนแรง อาจพบขาโก่ง 2 ข้าง เดินกะเผลก บางครั้งอาจพบข้อบวมเนื่องจากมีน้ำอยู่ในข้อโดยไม่มีอาการอักเสบแดงร้อนร่วมด้วย (ถ้าข้อมีอาการบวม แดง ร้อน มักเกิดจากสาเหตุอื่น)

สำหรับข้อสะโพกเสื่อม อาจตรวจพบขา 2 ข้างยาวไม่เท่ากัน เนื่องจากข้อข้างที่เสื่อมเคลื่อนหลุดจากเบ้าสะโพก

แพทย์จะทำการวินิจฉัยให้แน่ชัดโดยการเอกซเรย์ ถ่ายภาพด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI)


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

1. ถ้ามีอาการปวด ให้พักข้อที่ปวด (เช่น อย่าเดินมาก ยืนมาก หรือเดินขึ้นลงบันได นั่งเหยียดเข่าข้างที่ปวด อย่านั่งงอเข่า) และใช้น้ำแข็งหรือน้ำอุ่นจัด ๆ ประคบ ทานวดด้วยยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ ถ้ายังปวดให้กินพาราเซตามอลบรรเทาเป็นครั้งคราว

ถ้ามีอาการปวดมาก จะให้กินยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ในขนาดต่ำสุด นาน 3-5 วัน ไม่ควรกินติดต่อกันนาน ๆ และควรระมัดระวังในการใช้ยานี้ในผู้สูงอายุและผู้ที่เป็นโรคแผลเพ็ปติก ถ้าจำเป็นต้องใช้ยากลุ่มนี้ติดต่อกันหลายวัน จะให้ยาป้องกันโรคแผลเพ็ปติก เช่น โอเมพราโซล ครั้งละ 20 มก. วันละ 2 ครั้ง

2. พยายามหลีกเลี่ยงสิ่งที่จะทำให้อาการปวดข้อกำเริบ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อเข่า) เช่น ห้ามยกของหนัก หรือหาบน้ำ หิ้วน้ำ อย่ายืนนาน อย่านั่งคุกเข่า (นั่งถูพื้นหรือซักผ้า) นั่งพับเพียบ หรือขัดสมาธิ พยายามนั่งบนเก้าอี้หรือนั่งในท่าเหยียดเข่าตรง

เวลาสวดมนต์ ไหว้พระ ฟังเทศน์ หรือประกอบกิจทางศาสนา ควรหลีกเลี่ยงการนั่งงอเข่า ควรนั่งเก้าอี้หรือยืน

ควรหลีกเลี่ยงการนั่งซักผ้าในท่างอเข่า และการนั่งส้วมซึมแบบยอง ๆ ถ้าเป็นไปได้ควรใช้ส้วมชักโครก หรือใช้เก้าอี้เจาะช่องตรงกลางนั่งคร่อมบนส้วมซึม

หลีกเลี่ยงการเดินขึ้นลงบันได* ถ้าเป็นไปได้ควรย้ายห้องนอนลงมาชั้นล่าง

ถ้าพื้นบ้านมีการยกสูงต่างระดับกัน ทำให้เวลาเดินต้องงอเข่ามาก ก็ควรปรับให้เป็นระดับเดียว

ควรเปลี่ยนอิริยาบถบ่อย ๆ เช่น หลังจากนั่งทำงานนาน 1 ชั่วโมงควรพัก และลุกขึ้นเดินสัก 2-3 นาที หรือหลังจากยืนนาน ๆ ก็ควรนั่งพักสักครู่สลับกัน

ถ้าน้ำหนักมาก ควรลดน้ำหนักซึ่งจะช่วยให้อาการปวดทุเลาได้มาก

ในรายที่มีข้อเข่าหรือข้อสะโพกเสื่อม เวลาเดินควรใส่รองเท้าที่มีคุณสมบัติลดแรงกระแทกเพื่อลดการบาดเจ็บต่อข้อ

3. พยายามบริหารกล้ามเนื้อที่เคลื่อนไหวข้อให้แข็งแรง เช่น ถ้าปวดหลังก็ให้บริหารกล้ามเนื้อหลัง (ดู "โรคปวดกล้ามเนื้อหลัง") ถ้าปวดเข่าก็บริหารกล้ามเนื้อต้นขาส่วนหน้า

การฝึกกล้ามเนื้อควรเริ่มทำเมื่ออาการปวดทุเลาลงแล้ว ระยะแรกฝึกวันละ 2-3 ครั้ง ครั้งละ 5-10 นาที จนรู้สึกกล้ามเนื้อแข็งแรงไม่เมื่อยง่าย จึงเพิ่มเป็นวันละ 3-5 ครั้ง

การบริหารกล้ามเนื้อเข่า เริ่มแรกไม่ต้องถ่วงด้วยน้ำหนัก ต่อไปค่อย ๆ ถ่วงน้ำหนัก (เช่น ถุงทรายหรือขวดน้ำใส่ถุงพลาสติกที่มีหูหิ้ว) ที่ข้อเท้าทีละน้อย จาก 0.3 กก. เป็น 0.5 กก. 0.7 กก. และ 1 กก. โดยเพิ่มไปเรื่อย ๆ ทุก 2-3 สัปดาห์ จนยกได้ 2-3 กก. ข้อเข่าก็จะแข็งแรงและลดอาการปวด ควรทำเป็นประจำทุกวัน

4. ผู้ป่วยที่มีอาการปวดเข่ามากหรือบ่อย หรือมีอาการเข่าอ่อน เข่าทรุด ควรใช้ไม้เท้า เครื่องพยุงหรือกายอุปกรณ์ช่วยเดิน และสร้างราวเกาะในบ้านและในห้องน้ำ เพื่อใช้เกาะเดินและพยุงตัวป้องกันการหกล้ม

5. ถ้าอาการไม่ดีขึ้นใน 3-4 สัปดาห์ หรือบวมตามข้อ หรือมีอาการปวดร้าวหรือชาตามแขน (ร่วมกับปวดคอ) หรือขา (ร่วมกับปวดหลัง) จะทำการตรวจโดยการเอกซเรย์ดูการเปลี่ยนแปลงของข้อ หากสงสัยว่าเกิดจากโรคอื่น อาจต้องทำการตรวจเลือด และตรวจพิเศษอื่น ๆ เพิ่มเติม

ในรายที่ปวดรุนแรง แพทย์อาจให้ยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ ถ้ามีข้อห้ามใช้ยากลุ่มนี้แพทย์อาจให้ยาบรรเทาปวดอื่น ๆ เช่น ทรามาดอล อะมิทริปไทลีน เพื่อบรรเทาปวด

ในรายที่มีอาการข้อบวม แพทย์จะทำการดูดน้ำในข้อออก และอาจพิจารณาฉีดสเตียรอยด์เข้าในข้อเป็นครั้งคราว สามารถฉีดซ้ำได้ทุก 4-6 เดือน (ไม่ควรเกินปีละ 2-3 ครั้ง อาจทำให้กระดูกเสื่อมหรือสลายตัวเร็วขึ้น)

นอกจากนี้ แพทย์อาจให้การรักษาอื่น ๆ เช่น การทำกายภาพบำบัด, การฝังเข็ม, การให้กินยากลูโคซามีน (glucosamine) ซึ่งมีฤทธิ์ในการกระตุ้นการสร้างกระดูกอ่อนที่ผิวข้อ, การฉีดสารไฮยาลูโรเนต (hyaluronate ซึ่งเป็นสารที่มีอยู่ในน้ำในข้อ) เข้าในข้อ 1 ครั้ง/สัปดาห์ จำนวน 3-5 ครั้ง

วิธีเหล่านี้มีส่วนในการบรรเทาอาการปวดข้อ แต่มักจะกำเริบอีก และอาจต้องให้การรักษาเป็นระยะ ๆ ตามความรุนแรงของโรค

ในรายที่มีข้อเข่าเสื่อมรุนแรง จนไม่สามารถทำงานหรือทำกิจวัตรประจำวันได้เป็นปกติ หรือข้อเข่าผิดรูป เช่น ขาโก่ง โค้งงอ ซึ่งการรักษาด้วยวิธีใช้ยาต่าง ๆ ไม่ได้ผล แพทย์จะพิจารณาทำการผ่าตัดซึ่งมีอยู่หลายวิธี ซึ่งแพทย์จะเลือกให้เหมาะกับอายุ ความรุนแรง และลักษณะการใช้งานข้อเข่า เช่น การผ่าตัดโดยการใช้กล่องส่องเพื่อล้างข้อและซ่อมแซมผิวข้อ (arthroscopic larvage and debridement) ในผู้ป่วยที่เข่าเสื่อมไม่มาก, การผ่าตัดจัดแนวรับน้ำหนักของข้อเข่าใหม่ (osteotomy) ในผู้ป่วยอายุต่ำกว่า 60 ปีที่ข้อเข่าผิดรูป, การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม (joint replacement) ซึ่งนิยมทำในผู้ป่วยที่ข้อเข่าเสื่อมรุนแรงหรือผิดรูปมาก

สำหรับข้อสะโพกเสื่อมก็มีการผ่าตัดจัดแนวรับน้ำหนักใหม่ และการผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียม

การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเทียมช่วยให้ผู้ป่วยหายปวด สามารถเคลื่อนไหวข้อและเดินได้เป็นปกติ ในปัจจุบันมีการพัฒนาข้อเข่าเทียมที่สามารถงอเหยียด และเคลื่อนไหวข้อเข่าได้ใกล้เคียงกับข้อเข่าจริง ทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีเหมือนคนที่แข็งแรงทั่วไป

อย่างไรก็ตาม ก็ต้องระวังดูแลข้อเข่าเทียม โดยไม่ใช้งานหนักเกิน หลีกเลี่ยงการยกของหนักเป็นเวลานาน ๆ การแบกหาม การเดินไกล ๆ และการงอเข่ามาก ๆ และควรควบคุมน้ำหนัก มิเช่นนั้นข้อเข่าเทียมก็อาจชำรุดและใช้งานไม่ได้ในเวลาที่สั้นกว่าควรจะเป็น (ปกติข้อเข่าเทียมมีอายุการใช้งานประมาณ 8-15 ปี)

*หากจำเป็นต้องขึ้นลงบันได สำหรับผู้ที่มีอาการปวดเข่าข้างเดียว เวลาเดินขึ้นบันได ให้เดินขึ้นทีละขั้น โดยก้าวขาข้างที่ปกติขึ้นก่อน แล้วยกขาข้างที่ปวดขึ้นตามไปวางบนขั้นที่ขาปกติวางอยู่ อย่าก้าวข้ามไปอีกขั้นหนึ่ง ส่วนขาลง ก็ก้าวขาข้างที่ปวดลงก่อน แล้วก้าวขาข้างที่ปกติตาม การก้าวขึ้นลงบันไดทีละขั้นแบบนี้ ขาข้างที่ปวดจะไม่มีการงอเข่า จึงลดอาการปวดลงได้


การดูแลตนเอง

ถ้ามั่นใจ หรือได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นข้อเข่าเสื่อม ควรดูแลตนเอง ดังนี้   

    กินยาบรรเทาปวดตามคำแนะนำของแพทย์
    ใช้น้ำอุ่นจัด ๆ หรือน้ำแข็งประคบ
    หลีกเลี่ยงอิริยาบถที่ทำให้ปวดข้อ (เช่น นั่งงอเข่า เดินขึ้นลงบันได หรือบนพื้นต่างระดับ)
    บริหารกล้ามเนื้อรอบ ๆ ข้อให้แข็งแรง
    ลดน้ำหนักถ้าน้ำหนักเกินหรืออ้วน
    หลีกเลี่ยงการซื้อยาชุดหรือยาลูกกลอนมาใช้เอง เนื่องจากมักมียาสเตียรอยด์ผสม เมื่อกินแล้วจะรู้สึกดี ทำให้ต้องกินติดต่อกันนาน ๆ จนอาจเกิดผลข้างเคียงร้ายแรงจากสเตียรอยด์

ควรปรึกษาแพทย์ ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่งดังต่อไปนี้

    มีอาการไข้สูง ปวดข้อมาก หรือข้อมีลักษณะบวมหรืออักเสบ (บวมแดงร้อน)
    มีอาการเดินไม่ถนัด
    ดูแลตนเอง 1-2 สัปดาห์แล้วไม่ทุเลา หรือเป็น ๆ หาย ๆ บ่อย
    หลังกินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ถ่ายอุจจาระดำ ท้องเดิน หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ
    มีความวิตกกังวล หรือไม่มั่นใจที่จะดูแลตนเอง


การป้องกัน

สำหรับข้อเข่าเสื่อม อาจลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคนี้ได้โดย

1. ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ อย่าปล่อยให้มีภาวะน้ำหนักเกินหรืออ้วน ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญของโรคนี้

2. หลีกเลี่ยงการนั่งงอเข่านาน ๆ และการยกหรือหาบของหนักเป็นประจำ

3. บริหารกล้ามเนื้อรอบเข่าให้แข็งแรง

4. ออกกำลังกายที่ไม่ลงน้ำหนักมาก เช่น เดินเร็ว ว่ายน้ำ ขี่จักรยาน เป็นต้น และรู้จักป้องกันไม่ให้ข้อบาดเจ็บจากการออกกำลังกาย เช่น มีการอุ่นเครื่อง (วอร์มอัป) และผ่อนคลายร่างกาย (คูลดาวน์) ก่อนและหลังออกกำลังกาย ใส่รองเท้าที่ลดแรงกระแทก หลีกเลี่ยงการวิ่งบนพื้นที่แข็ง เป็นต้น


ข้อแนะนำ

1. โรคข้อเสื่อมแม้ว่าจะพบบ่อยในผู้สูงอายุ ปัจจุบันเชื่อว่ามีปัจจัยที่ทำให้ข้อเสื่อมร่วมกันหลายประการ ไม่ใช่เกิดจากการใช้งานมากหรือเสื่อมตามอายุเพียงอย่างเดียว นอกจากนี้ผู้ที่มีภาวะข้อเสื่อมจำนวนไม่น้อย (ซึ่งตรวจพบจากภาพถ่ายรังสี) จะไม่มีอาการแสดง ซึ่งไม่จำเป็นต้องให้การรักษาใด ๆ

2. โรคนี้จะเป็นเรื้อรังตลอดไป ซึ่งจะมีอาการค่อยเป็นค่อยไปเป็นเวลาหลายปี และถ้าขาดการดูแลรักษาก็จะรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนมีอาการปวดรุนแรงหรือปวดตลอดเวลา หรือข้อผิดรูป

3. ยาที่ใช้ส่วนใหญ่เป็นยาบรรเทาอาการปวด ไม่ใช่ยารักษาเฉพาะ (ไม่ได้ช่วยให้ข้อที่เสื่อมฟื้นคืนปกติ) ควรเริ่มใช้ยาทาแก้ปวดข้อดูก่อน ถ้าไม่ได้ผลใช้พาราเซตามอลเป็นครั้งคราวเฉพาะเวลามีอาการปวด ถ้าไม่ได้ผลจึงเปลี่ยนเป็นยาบรรเทาปวดอื่น ๆ เช่น ทรามาดอล อะมิทริปไทลีน เป็นต้น

4. ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ แพทย์จะใช้ยากลุ่มนี้ในรายที่อาการปวดรุนแรงหรือใช้ยาอื่นไม่ได้ผล และไม่ควรใช้ติดต่อกันนาน อาจมีผลข้างเคียงร้ายแรงได้ เช่น แผลเพ็ปติก เลือดออกในกระเพาะ ไตวาย

ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ชนิดฉีดโดยไม่จำเป็น เพราะอาจทำให้เกิดภาวะช็อกจากปฏิกิริยาอะไฟแล็กตอยด์ (anaphylactoid reaction) หรือการติดเชื้อที่กล้ามเนื้อและเส้นเอ็น (myofasciitis) ได้

5. ผู้ป่วยสามารถออกกำลังกายที่ไม่ลงน้ำหนักมาก เช่น เดินเร็ว ๆ ว่ายน้ำ ขี่จักรยาน รำมวยจีน ฝึกโยคะเป็นต้น แต่ควรใส่รองเท้าที่มีคุณสมบัติลดแรงกระแทก

2
จัดฟันบางนา: เครื่องมือการจัดฟันแบบใส ผลิตขึ้นมาได้อย่างไร

การเข้ารับการจัดฟันแบบใส เป็นการรักษาทางทันตกรรมที่มีการนำนวัตกรรมรูปแบบใหม่เข้ามาใช้ในการรักษาตั้งแต่ขั้นตอนการวางแผนการรักษาตลอดจนขั้นตอนการรักษา ซึ่งการจัดฟันแบบใสเป็นการจัดฟันแห่งอนาคตเลยก็ว่าได้ เพราะดีต่อผู้เข้ารับการจัดฟันและดีกับตัวทันตแพทย์เอง ซึ่งหลายคนที่เคยผ่านการจัดฟันมาแล้ว อาจจะทราบว่าขณะที่เรากำลังเข้ารับการจัดฟันแบบใสนั้นเราจะต้องดูแลรักษาความสะอาดช่องปากและฟันให้ดีเป็นพิเศษเพื่อที่จะได้ป้องกันการเกิดปัญหาฟันขณะเข้ารับการจัดฟัน

สำหรับข้อดีของผู้เข้ารับการจัดฟันก็คือได้มีการใช้งานของเครื่องมือการจัดฟันแบบใส ที่สามารถมองเห็นได้ยาก จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเข้ารับการจัดฟันแต่ไม่อยากให้ใครเห็นเครื่องมือการจัดฟันได้อย่างชัดเจน เพราะหลายคนเชื่อว่าการที่มีเหล็กจัดฟันอยู่ภายในช่องปากจะทำให้เราสูญเสียบุคลิกภาพและทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับการพูดการออกเสียงอีกด้วย นอกจากนี้ การเข้ารับการจัดฟันแบบใสยังดีต่อสุขภาพช่องปากและฟัน เนื่องจากผู้เข้ารับการจัดฟันสามารถถอดเครื่องมือการจัดฟันแบบใสออกได้ขณะแปรงฟัน

ทำให้สามารถแปรงฟันได้ตามปกติและทั่วถึงทุกซอกทุกมุมมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะต่างจากการจัดฟันแบบเหล็กจัดฟันที่ถูกติดตั้งอยู่บนผิวฟันสามารถทำความสะอาดได้ยากกว่า สำหรับข้อดีของทันตแพทย์ก็คือเครื่องมือการจัดฟันมีกระบวนการทำงานที่สบายกว่าเครื่องมือชนิดอื่น เพราะเครื่องมือการจัดฟันใช้การออกแบบและวางแผนการรักษาด้วยคอมพิวเตอร์ ทำให้ทันตแพทย์ไม่ต้องติดเครื่องมือเองและไม่ต้องนัดผู้เข้ารับการจัดฟันบ่อยๆ ไม่ต้องปรับเครื่องมือแบบเดิมๆ ไม่ต้องแกะลวด ไม่ต้องเปลี่ยนยางเหมือนกับเครื่องมือการจัดฟันแบบทั่วไป ซึ่งจะมีความสะดวกสบาย ทั้งหมดนี่คือข้อดีของการจัดฟันแบบใสที่เอื้อในเรื่องของประโยชน์แก่ผู้ป่วยและทันตแพทย์
 
หากเราพูดถึงเครื่องมือการจัดฟันแบบใส ต้องบอกว่าเป็นเครื่องมือที่ทันยุคทันสมัย เพราะการจัดฟันแบบใสและใช้เครื่องมือการจัดฟันนั้น ไม่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของเราเลย ด้วยเครื่องมือการจัดฟันแบบใสที่ออกแบบมาด้วยลักษณะที่เป็นพลาสติกใส จะมองเห็นได้ยากและยังสวมใส่ได้ง่ายถอดออกได้อย่างสะดวก ไม่ทำให้เจ็บ นอกจากนี้ ข้อสำคัญที่สุดเลยก็คือเครื่องมือการจัดฟันแบบใส จะถูกผลิตขึ้นเป็นของแต่ละบุคคลโดยเฉพาะและออกแบบด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ตั้งแต่ต้น

แต่ในการเข้ารับการจัดฟันแบบใสจะมีเครื่องมือหลายชิ้นตลอดการรักษา ซึ่งผู้เข้ารับการจัดฟันจะต้องจำเป็นที่จะใส่เครื่องมือการจัดฟันแบบใสวันละ 22 ชั่วโมงและเปลี่ยนชิ้นใหม่ทุกๆสองสัปดาห์ สำหรับ ใครหลายคนที่กำลังตัดสินใจเข้ารับการจัดฟันแบบใสที่มีคำถามที่ว่าเครื่องมือการจัดฟันแบบใสผลิตขึ้นมาได้อย่างไร วันนี้เรามีคำตอบมาให้ทุกคนได้เป็นแนวทางหรือใครข้อสงสัยเกี่ยวกับเครื่องมือการจัดฟันแบบใส สำหรับการผลิตเครื่องมือการจัดฟันแบบใสนั้น

ก็มาจากกระบวนการขั้นตอนการรักษาที่ทางทันตแพทย์จะต้องทำการตรวจประเมินช่องปาก พิมพ์ปาก และออกแบบเครื่องมือด้วยระบบคอมพิวเตอร์เพื่อจัดส่งไปยังแลปเพื่อให้ผลิตชิ้นงานออกมาซึ่งเครื่องมือแบบใส ก็มีการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์และเครื่องจักรในการผลิตซึ่งจะมีคุณภาพและความประณีตมาก ซึ่งช่วยให้สามารถเคลื่อนฟันไปยังตำแหน่งที่ถูกต้อง

สำหรับการผลิตเครื่องมือการจัดฟันแบบใสจะเริ่มจากทันตแพทย์พิมพ์ปากผู้เข้ารับการจัดฟันจากนั้นจะสแกนแบบพิมพ์ฟันปูนและแปลงไปเป็นข้อมูลดิจิตอลและส่งไปที่แลปต่างประเทศ เมื่อได้รับแบบจำลองฟันของผู้เข้ารับการจัดฟันแล้ว ก็จะใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์จำลองการเคลื่อนฟันแบบสามมิติจากนั้นก็จะส่งแบบจำลองการเคลื่อนฟันซึ่งเป็นไฟล์คอมพิวเตอร์กลับมาให้ทันตแพทย์พิจารณาเมื่อทันตแพทย์พิจารณาเสร็จเรียบร้อยแล้วก็จะแจ้งให้ผลิตเครื่องมือต่อไป

ทางคลินิกของเรา ยังได้รับการรับรองสูงสุดจาก Invisalign เพื่อให้เข้ารับการจัดฟันได้อย่างถูกต้อง มีมาตรฐานสากลและยังมีความน่าเชื่อถือเพราะการจัดฟันแบบใสนั้น จะต้องได้รับการรักษาจากทันตแพทย์ที่ผ่านการรับรองเท่านั้น เพื่อให้ผลการรักษามีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัย และทางทันตแพทย์ของเรายังสามารถให้คำปรึกษาในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟันได้อย่างถูกต้องและเป็นกันเอง จึงทำให้มั่นใจได้ว่าหากคุณเข้ารับการรักษาจากทางคลินิกของเรา คุณจะมีฟันที่สวยงามเป็นธรรมชาติและสามารถใช้ชีวิตชีวิตประจำวันได้อย่างเต็มที่และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน

3
ตรวจอาการเบื้องต้นด้วยตนเอง: เห็บกัด

เห็บ นอกจากจะเป็นพาหะนำไข้รากสาดใหญ่ชนิด epidemic typhus แล้ว บางชนิดยังมีพิษที่สามารถทำลายระบบประสาทให้กลายเป็นอัมพาตได้อีกด้วย

อาการ

ผู้ป่วยส่วนมากจะมีอาการเฉพาะที่ เป็นตุ่มคันหายได้ภายใน 2-3 วัน แต่อาจทำให้เกาจนเป็นหนองได้ แต่ถ้านำตัวออกไม่หมด ยังมีหัวของมันฝังอยู่ในผิวหนัง ตุ่มนี้อาจโตขึ้น (ทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นก้อนมะเร็งได้) บางครั้งอาจทำให้เกิดอาการอัมพาตคล้ายโปลิโอ เมื่อนำหัวของมันออกก็จะค่อย ๆ หายได้ แต่ถ้าปล่อยจนกล้ามเนื้อหายใจเป็นอัมพาตก็อาจทำให้หยุดหายใจตายได้

การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

1. ให้ดึงเห็บออกพร้อมหัว อย่าให้มีส่วนของหัวค้างอยู่ในผิวหนัง อาจใช้น้ำมันหรือยาหม่องทา หรือใช้บุหรี่ติดไฟลนใกล้ตัวเห็บ จะช่วยให้หลุดออกง่ายขึ้น

2. ถ้าเกาจนเป็นหนอง ให้ยาปฏิชีวนะ เช่น เพนิซิลลินวี ไดคล็อกซาซิลลิน หรืออีริโทรไมซิน

3. ถ้ามีอาการอัมพาต ควรสำรวจว่ามีหัวของเห็บติดอยู่ส่วนไหน แล้วเอาออกหรือผ่าออกเสีย และรีบส่งผู้ป่วยไปโรงพยาบาลทันที

การดูแลตนเอง

ถ้าเห็นตัวเห็บ ให้ดึงเห็บออกพร้อมหัว อย่าให้มีส่วนของหัวค้างอยู่ในผิวหนัง อาจใช้น้ำมันหรือยาหม่องทา หรือใช้บุหรี่ติดไฟลนใกล้ตัวเห็บ จะช่วยให้หลุดออกง่ายขึ้น

ควรปรึกษาแพทย์ ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    สงสัยว่าดึงตัวเห็บออกไม่หมด
    มีอาการคันมาก หรือเกาจนเป็นหนอง
    มีอาการแขนขาอ่อนแรง

4
สร้างรายได้ จากเมนูไข่เจียวสมุนไพร เมนูทำแสนง่ายและอร่อย ดีต่อสุขภาพ

ไข่เจียวสมุนไพรเป็นอาหารรสชาติดีและมีคุณค่าทางโภชนาการที่สามารถทำที่บ้านได้อย่างง่ายดาย อาหารจานนี้ผสมผสานความเข้มข้นของไข่กับความสดชื่นของสมุนไพร ทำให้เป็นอาหารที่สมบูรณ์แบบสำหรับทุกช่วงเวลาของวัน ไม่ว่าจะเสิร์ฟกับข้าวหรือรับประทานเปล่าๆ ไข่เจียวสมุนไพรก็เป็นทางเลือกที่อร่อยและดีต่อสุขภาพ

ไข่เจียวสมุนไพรเป็นเมนูอาหารที่ทำง่าย อร่อย และมีประโยชน์ต่อสุขภาพ สามารถปรับเปลี่ยนส่วนผสมได้ตามความชอบและสมุนไพรที่มีในครัว

วัตถุดิบ

ในการทำออมเลตสมุนไพรแสนอร่อย คุณจะต้องมี:

ไข่ 2–3 ฟอง
สมุนไพรสดจำนวนหนึ่งกำมือ (เช่น โหระพาไทย ผักชี ต้นหอม หรือผักชีลาว)
กระเทียมสับ 1–2 กลีบ
น้ำปลาหรือซีอิ๊วขาว 1 ช้อนชา
เกลือและพริกไทยเล็กน้อย
น้ำมันปรุงอาหาร 1 ช้อนโต๊ะ

คำแนะนำ
เตรียมส่วนผสม – ล้างและสับสมุนไพรสดให้ละเอียด สับกระเทียม
ตีไข่ – ตอกไข่ใส่ชามแล้วตีให้เข้ากัน ใส่สมุนไพรสับ กระเทียมสับ น้ำปลา (หรือซีอิ๊วขาว) เกลือ และพริกไทย ผสมให้เข้ากัน
ตั้งน้ำมันให้ร้อน – วางกระทะบนไฟปานกลางแล้วใส่น้ำมันปรุงอาหารลงไป
ปรุงออมเล็ต – เทส่วนผสมไข่ลงในกระทะแล้วเกลี่ยให้ทั่ว ปล่อยให้สุกประมาณ 2-3 นาที หรือจนกว่าด้านล่างจะเป็นสีน้ำตาลทอง
พลิกกลับและปรุงต่อ – พลิกออมเล็ตอย่างระมัดระวังและปรุงต่ออีก 1-2 นาที เมื่อสุกเต็มที่แล้ว ให้ตักใส่จาน
เสิร์ฟและเพลิดเพลิน – หั่นไข่เจียวเป็นชิ้นๆ และเสิร์ฟร้อนๆ พร้อมข้าวสวยหรือเป็นเครื่องเคียง

ประโยชน์ต่อสุขภาพ
ไข่เจียวสมุนไพรไม่เพียงแต่มีรสชาติอร่อยเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกด้วย:
ไข่ให้โปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุคุณภาพสูง
สมุนไพรเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระและช่วยในการย่อยอาหาร
กระเทียมช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและปรับปรุงสุขภาพหัวใจ

เมนูง่ายๆ แต่รสชาติกลมกล่อมนี้เป็นวิธีที่ดีเยี่ยมในการเพลิดเพลินกับคุณประโยชน์ของสมุนไพรสดในขณะที่ทำอาหารมื้อด่วนได้อย่างง่ายดาย ลองทำออมเล็ตสมุนไพรที่บ้านและเพลิดเพลินกับรสชาติที่แสนอร่อยของมัน

5
รถรับจ้างราคาถูก รถ10ล้อรับจ้างเชียงใหม่ ราคาตรง ไม่โดนหลอก รับจ้างขนของดีๆ

รถรับจ้าง อีกขนาดนะคะที่ได้รับความนิยมมากๆในช่วงขนของ ย้ายของ เครื่องมือก่อสร้างในไซต์งาน ใช้อุปกรณ์ก่อสร้างต่างๆ นั่นคือ รถสิบล้อรับจ้าง ค่ะ บางทีอาจจะมองว่างานนั้นหายาก ไม่ค่อยมีรถ แต่จริงๆแล้ว รถ10ล้อรับจ้างขนของ นั้นเขาจะมีจุดจอดรถของเขาเป็นประจำ ไม่สามารถที่จะจอดได้ตามข้างถนน เหมือน รถขนของ ขนาดเล็ก ดังนั้นวันนี้เราจะมาบอกว่า รถสิบล้อรับจ้างขนของจังหวัดเชียงใหม่ ปกติเรามีความรู้เกี่ยวกับรถคันนี้มากเท่าไหร่ และราคาค่าบริการ รับจ้างขนของ เท่าไหนถึงจะเหมาะสมกับราคาที่เป็นจริง ของรถในพื้นที่ จะโดนฟันราคาหรือจะได้ราคาที่ถูก มาดูกันว่าเรามีวิธีอะไร ยังไงให้เราได้มีความรู้ขั้นพื้นฐานก่อนเรียกใช้ รถรับจ้างขนของ ประเภทนี้

1. รถสิบล้อรับจ้างขนของ ข้อดีของสิบล้อรับจ้างก็คือสามารถแบกน้ำหนักได้เยอะถึงราคาจะต่างจาก 6 ล้อค่อนข้างมาก แต่น้ำหนักที่บรรทุกได้ก็ต่างจากหกล้อรับจ้างมากเช่นเดียวกันคือประมาณรับได้ 15ตัน ส่วนหกล้อรับจ้างได้สูงสุดที่ 7-9 ตันเท่านั้น

2. ความคุ้มค่านี้จะเกิดขึ้นได้ ขึ้นอยู่ที่ชนิดสินค้าของลูกค้าที่จะขนสิ่งนั้นเป็นอะไรอย่าง เช่น การขนเหล็กเส้น หรือ เหล็กรูปพรรณต่างๆปริมาณ หรือจำนวนของอาจจะไม่มากแต่น้ำหนักของนั้นค่อนข้างมากเลยทีเดียว ดังนั้นราคาก็จะขึ้นกับความยากง่ายในการขนย้ายด้วยเช่นเดียวกัน

3. หากลูกค้าท่านใดต้องการจะ ขนของย้ายบ้าน หรือขนสินค้าต่างๆไม่ว่าสินค้านั้นจะเป็นชนิดแบบไหนขนาดใด ควรศึกษาขนาดรถ ราคาและขอคำแนะนำกับบริษัทรถรับจ้างขนของ ต่างๆซึ่งในยุคนี้สมัยนี้สามารถหาได้ง่ายๆเพียง search ในอินเตอร์เน็ตหรือค้นหาตาม Facebook ก็ได้เช่นเดียวกันค่ะเพื่อที่จะเป็นตัวเลือก และทำให้การขนย้ายหรือ การเคลื่อนย้ายของของลูกค้านั้นมีผู้บริการที่มีตัวตนที่แน่นอน เป็นไปด้วยความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ และสิ่งที่สำคัญก็คือลูกค้าจะได้ไม่เปลืองค่าใช้จ่ายโดยใช่เหตุหาก ลูกค้าได้ รถ10ล้อรับจ้างจังหวัดเชียงใหม่ ที่มีความประหยัดปลอดภัยมีความชำนาญ ก็จะเป็นกำไร ของลูกค้าในการขนย้ายสิ่งของนั้นๆเช่นเดียวกันด้วยค่ะ หากท่านใด วางแผนหรือในอนาคตอาจจะได้ ย้ายบ้าน ย้ายวัตถุดิบการเกษตร ขนย้ายวัสดุก่อสร้าง ขนสินค้าก็นำข้อมูลที่ดิฉันแนะนำไปประยุกต์ใช้ในการขนของลูกค้าก็ได้นะคะ เพื่อเป็นแนวทางในการบริการการจัดการที่ดีต่อท่านในอนาคตข้างหน้า

หรือหากกำลังมองหา รถรับจ้างสิบล้อเชียงใหม่ ที่มีประสบการณ์ และราคาถูก เรามีแหล่งที่สามารถแนะนำท่านได้ และมีความปลอดภัยในสินค้า และ การขนย้ายเป็นที่สุด ซึ่งที่นี่เราจะรวบรวมเอาผู้ให้บริการ รถสิบล้อรับจ้างขนของเชียงใหม่ มาให้ท่านขอบคุณมากๆค่ะ


หารถสิบล้อรับจ้างเชียงใหม่ มีที่ไหนบ้างเอ๋ย ที่จะไม่โดนหลอก

รถ10ล้อรับจ้างขนของอำเภอเมืองเชียงใหม่

รถ10ล้อรับจ้างขนของอำเภอเชียงดาว

รถ10ล้อรับจ้างขนของอำเภออมก๋อย

รถ10ล้อรับจ้างขนของอำเภอไชยปราการ

รถ10ล้อรับจ้างขนของอำเภอดอยหล่อ

รถ10ล้อรับจ้างขนของอำเภอฝาง

รถ10ล้อรับจ้างขนของอำเภอพร้าว

รถ10ล้อรับจ้างขนของอำเภอแม่แตง

รถ10ล้อรับจ้างขนของอำเภอแม่ริม

รถ10ล้อรับจ้างขนของอำเภอแม่อาย

รถ10ล้อรับจ้างขนของอำเภอแม่ออน

รถ10ล้อรับจ้างขนของอำเภอสะเมิง

รถ10ล้อรับจ้างขนของอำเภอสันกำแพง

รถ10ล้อรับจ้างขนของอำเภอสันป่าตอง

รถ10ล้อรับจ้างขนของอำเภอหางดง

รถ10ล้อรับจ้างขนของอำเภอฮอด

 รถ10ล้อรับจ้างขนของอำเภอดอยเต่า

รถ10ล้อรับจ้างขนของอำเภอดอยสะเก็ด

รถ10ล้อรับจ้างขนของอำเภอแม่แจ่ม

รถ10ล้อรับจ้างขนของอำเภอแม่วาง

รถ10ล้อรับจ้างขนของอำเภอเวียงแหง

รถ10ล้อรับจ้างขนของอำเภอสันทราย

รถ10ล้อรับจ้างขนของอำเภอสารภี

รถ10ล้อรับจ้างขนของอำเภอจอมทอง

ง่ายขึ้นเยอะเลยใช่มั้ยคะว่า ต่อจากนี้ไปจะไปหา รถสิบล้อรับจ้าง อยู่ที่ไหนได้บ้างในจังหวัดเชียงใหม่ และที่สำคัญ ไม่โดนหลอกอีกด้วย ราคาก็ไม่ถูกหลอก บริการด้วยความจริงใจ ไม่ทำให้เครียดเรื่องของหาย สินค้าชำรุด ตรงต่อเวลา นี่ละที่ทางเราจะมาแนะนำให้เพื่อนๆพี่ๆ ทุกคนได้เปิดตา หูสว่างขึ้น เพราะการแชรืประสบการณ์ดีๆเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆอย่างแน่นอน


6
บริหารจัดการอาคาร: ภัยเงียบจากความชื้นในห้องแอร์

เชื่อว่า หลายคนชื่นชอบที่จะอยู่ภายในห้องแอร์ที่มีความเย็น ทำให้เรารู้สึกเย็นสบาย คลายร้อนซึ่งต้องบอกว่า บ้านเราถือว่าเป็นเมืองที่ร้อนอบอ้าวมาก บางวันมีอุณหภูมิสูงถึง 40 องศาจึงไม่แปลกที่ปัจจุบัน หลายบ้านเลือกที่จะติดตั้งเครื่องปรับอากาศเพื่อดับร้อน

แต่ทั้งนี้ ภายในแอร์นั้น ก็มีความชื้นสะสมเป็นจำนวนมาก จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เชื้อโรคเจริญเติบโตได้ง่ายและส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ วิธีการใช้งานแอร์ที่ถูกต้อง คือเราต้องหมั่นล้างแอร์ตามเวลาที่กำหนดหรือถ้าใช้งานเป็นประจำทุกวัน ก็ควรล้างอย่างน้อย ปีละ 3-4 ครั้งเพราะการล้างทำความสะอาดแอร์จะทำให้แอร์ไม่ต้องทำงานหนักและทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพแถมยังช่วยประหยัดค่าไฟอีกด้วย

ในทางกลับกันถ้าหากเราไม่ล้างทำความสะอาดแอร์ก็จะทำให้แอร์ที่การสะสมของเชื้อโรค ทำร้ายสุขภาพของเราได้และยังทำให้แอร์ต้องทำงานหนักกว่าปกติ เปลืองค่าไฟและยังส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายของเราด้วยซึ่งต้องบอกเลยว่า การใช้งานแอร์แม้ว่าจะช่วยทำให้เรารู้สึกสะดวกสบายแต่ก็มีข้อเสียอาจจะเป็นภัยเงียบที่ทำร้ายสุขภาพของเราได้เช่นเดียวกันหากเราไม่ดูแลความสะอาดภายในแอร์ของเรา

ดังนั้น วันนี้ทางเราจะมาพูดถึงภัยเงียบจากความชื้นในห้องแอร์ซึ่งต้องบอกว่า ความชื้นในแอร์นั้น เป็นเรื่องปกติมาก สามารถเกิดขึ้นได้แต่ทำอย่างไรที่จะช่วยป้องกันความเสี่ยงไม่ให้ส่งผลต่อการเกิดปัญหาสุขภาพของเรา

ต้องบอกก่อนว่า เชื้อราในระบบปรับอากาศ ถือว่าเป็นภัยเงียบที่มองไม่เห็นเชื้อราจะแขวนลอยอยู่ในอากาศ ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาทั้งต่อตัวบุคคล เช่น หากผู้ป่วยสูดอากาศที่ปนเปื้อนเชื้อราเป็นระยะเวลานานจะทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจ หอบ หืด คัดจมูก โรคผิวหนังบางชนิดเช่น หูด หรือ โรคภายในร่างกาย เช่น ตับ เป็นมะเร็งจากสารอัลฟาท็อกซินจากเชื้อราในอาหารและยังก่อให้เกิดปัญหาในการผลิตจากการเกิดเชื้อราในอาหารตลอดจนถึงทำให้อาคารเกิดเปลี่ยนสี โดยเฉพาะตามผนังอาคารหรือ เกิดกลิ่นเหม็นอับในอาคารและก่อให้เกิดโรคต่างๆ ติดตามกันมา

การออกแบบระบบปรับอากาศที่ดีก็มีส่วนช่วยลดการก่อตัวของเชื้อราในอาคารโดยเชื้อราที่อยู่ในแอร์นั้น จะถูกปล่อยทิ้งไว้โดยไม่จัดการแก้ไขเป็นเวลานานเกินกว่า 48 ชั่วโมงเช่น ตามแนวท่อน้ำ เย็นที่ฉนวนเกิดแตกหรือฉีกขาด ทำให้เกิดการควบแน่นของไอน้ำที่ผิวท่อโดยอุณหภูมิมีส่วนในการเกิดเชื้อรา เพราะส่วนใหญ่เชื้อราจะสามารถมีชีวิตอยู่ได้ที่อุณหภูมิ 0 – 30 °C แต่อุณหภูมิที่เหมาะสมในการเจริญเติบและแพร่พันธุ์จะอยู่ที่ 20 – 30 °C

แต่มีราบางชนิดที่สามารถเจริญเติบโตและแพร่พันธุ์ที่อุณหภูมิ 40 – 50°C  หากพื้นที่ที่มีความชื้นก็จะทำให้เชื้อราเจริญเติบโตและขยายพันธุ์สูงกว่า 60% เลยทีเดียวดังนั้น ทุกครั้งที่เราเปิดแอร์ ควรสังเกตว่าอากาศที่ออกมาจากแอร์ มีกลิ่นเหม็นกลิ่นอับหรือไม่หากมีกลิ่นในเบื้องต้นควรล้างทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศที่อยู่ในแอร์ด้วยน้ำสบู่หรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรค หรือเรียกช่างมาเพื่อทำความสะอาดอย่างเต็มระบบ

ซึ่งการล้างแอร์เต็มระบบควรล้างอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง แต่หากใช้เป็นประจำควรล้างอย่างน้อย 3 เดือนต่อครั้งเพราะนอกจากลดเชื้อโรคแล้ว ยังช่วยประหยัดไฟฟ้าได้อีกด้วยเรียกได้ว่า ภัยเงียบที่มาจากความชื้นภายในเครื่องปรับอากาศ ถือว่าเป็นอันตรายมากต่อสุขภาพของเราและคนในบ้านเพราะฉะนั้น ควรล้างทำความสะอาดบ่อยๆ บำรุงรักษาให้มากที่สุด เพื่อที่เราจะได้มีแอร์ใช้งานไปได้ยาวๆ

อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของระบบปรับอากาศ หรือระบบทำความเย็น ก็สามารถติดต่อทางเราได้ เพราะเรามีบริการดูแลระบบปรับอากาศภายในอาคาร มีช่างแอร์ที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์มานานหลายปีสามารถดูแลเครื่องปรับอากาศของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตามมาตรฐานเพื่อให้ทุกคนได้ใช้งานเครื่องปรับอากาศอย่างเต็มประสิทธิภาพ มีความสะอาดและยังช่วยประหยัดในเรื่องของค่าไฟฟ้าได้ด้วย เพื่อป้องกันการเกิดความเสียหายของเครื่องปรับอากาศและยังให้เครื่องปรับอากาศมีความสะอาดมากยิ่งขึ้น ทำให้มีสิ่งแวดล้อมที่น่าอยู่มากยิ่งขึ้น

7
ทำบุญ ไหว้พระ 10 วัดสวย อุดรธานี อันซีน น่าไปเยือน ไปไหว้ขอพรเสริมบุญกัน!

ไปเที่ยว อุดรธานี แล้วถ้าไม่ไปทัวร์ วัดสวย ก็เหมือนไปไม่ถึงค่ะ เพราะที่นี่เต็มไปด้วยวัดมากมาย ที่สำคัญสวยไม่เหมือนใครด้วย ใครเป็นสายบุญชอบทัวร์เดินสายไหว้พระแล้วล่ะก็ ปักหมุดตามพิกัดนี้มาได้เลย! กับ 10 วัดสวย อุดรธานี อันซีน น่าไปเยือน นี้

รวม วัดสวย อุดรธานี พิกัดไหว้พระ ทัวร์เสริมบุญ

1. วัดป่าภูก้อน

     วัดสวย ของ อุดรธานี ไม่พูดถึงไม่ได้เลย นั่นก็คือ วัดป่าภูก้อน เพราะวิหารของวัดป่าภูก้อนนั้นจะสวยงามสะดุดตาเป็นอย่างมาก ภายในจะมีการตกแต่งอย่างสวยงามเช่นกัน ทั้ง ภาพพุทธประวัติและภาพทศชาติ ภาพปั้นนูนต่ำที่หล่อด้วยทองแดง พระบรมสารีริกธาตุบรรจุในพระเกศพระร่วงโรจน์ศรีบูรพา รวมไปถึงอีกไฮไลท์อย่าง พระพุทธไสยาสน์โลกนาถศาสดามหามุนี พระพุทธไสยาสน์หินอ่อนสีขาวที่สร้างด้วยการเอาหินอ่อนนำมาเรียงซ้อนกันถึง 42 ก้อนด้วยกันค่ะ งดงามขนาดนี้ ไม่แปลกใจเลยที่วัดแห่งนี้มีชื่อเสียงมากขนาดนี้

    ที่อยู่ : 99 หมู่ที่ 6 ตำบลบ้านก้อง อำเภอนายูง จังหวัดอุดรธานี
    เปิดให้เข้าชม : 08.30-17.00 น.
    โทร : 08-2835-0668

2. วัดสันติวนาราม

     วัดสันติวนาราม วัดสวย ที่โดดเด่นด้วย พระอุโบสถทรงดอกบัว ตั้งอยู่กลางน้ำอย่างสวยงาม และที่สำคัญมีเพียงหนึ่งเดียวในไทยเท่านั้นด้วย ด้านในอุโบสถนั้นจะตกแต่งผนังด้วยรูปภาพเกี่ยวกับ​พุทธ​ประวัติอย่างสวยงามมาก โดยพระอุโบสถดอกบัวนี้ จะมีขนาด 19x19 เมตร มีดอกบัวทั้งหมด 24 กลีบ พร้อมกับ พญานาค 2 ตัวบริเวณด้านหน้า และ มีสะพานทางไว้สำหรับเดินเข้าไปได้ถึงตัวอุโบสถเลย ใครชอบเที่ยววัดสวย บอกเลยว่าวัดนี้ห้ามพลาดค่ะ

    ที่อยู่ : หมู่ 11 ตําบลบ้านเชียง อําเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี
    เปิดให้เข้าชม : สามารถเข้าชมได้ตามเวลาเปิดปิดของสถานที่

3. วัดโพธิสมภรณ์

     วัดโพธิสมภรณ์ ที่ประดิษฐาน พระพุทธรัศมี พระพุทธรูปสัมฤทธิ์ปางมารวิชัย อายุกว่า 600 ปี และ พระพุทธรูปศิลาแลง ปางประธานพร สมัยลพบุรี อายุ 1,300 ปี ที่ชาวเมืองอุดรฯ นั้น ให้ความเคารพนับถือกันเป็นอย่างมากเลยค่ะ รวมถึงยังเป็นวัดพระอารามหลวง ที่สร้างขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์ ปลายรัชกาลที่ 5 ด้วยค่ะ เก่าแก่แบบนี้ ต้องไปสักการะขอพรไหว้เสริมสิริมงคลกันแล้วนะคะ

    ที่อยู่ : ถนนเพาะนิยม เลขที่ 22 ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี
    เปิดให้เข้าชม : 07.00-18.00 น.
    โทร : -

4. วัดภูตะเภาทอง

     วัดภูตะเภาทอง เป็นวัดราษฎร์ สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายธรรมยุตนิกาย ที่ตั้งอยู่ในบริเวณที่มีก้อนหินขนาดใหญ่ รูปร่างแปลกตามากถึง 30 ลูก คาดว่าบริเวณนี้น่าจะเคยเป็นทะเลมาก่อน แต่ต่อมายกตัวขึ้นกลายมาเป็นลานหินและพื้นดิน รวมถึงมีการพบรอยฝ่ามือคนข้างหินก้อนใหญ่รูปเรือสำเภาโบราณอีกด้วยค่ะ โดยไฮไลท์ของวัดนี้คือ พญานาคราชสีทอง ชื่อ มุจลินท์ ที่หลวงพ่อได้สร้างขึ้นตามนิมิต และ รอยฝ่ามือแดง ที่ปรากฏให้เห็นตรงหินก้อนใหญ่นั่นเองค่ะ เป็นสองสิ่งที่ถ้าเราไปเยือนที่นี่ก็ต้องไปแวะชมกันนะคะ

    ที่อยู่ : ตำบลกุดหมากไฟ อำเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี
    เปิดให้เข้าชม : 07.00-17.00 น.

5. วัดสระมณี

     วัดสระมณี สร้างขึ้นมาเมื่อปี พ.ศ. 2338 ซึ่งเมื่อก่อนนนั้นวัดสระมณี จะมีสระแห่งหนึ่ง เล่ากันว่ามีลูกแก้วชนิดหนึ่งลอยขึ้นมาจากสระ และเปล่งแสงประกายงดงามมากนั่นเอง โดยวัดนี้จะโดดเด่นและไม่เหมือนใครมากๆ เน้นสีสันสดใส ตกแต่งด้วยพญานาคเป็นส่วนใหญ่ มีพระอุโบสถหลังงามตกแต่งด้วยกระจกวิบวับ ส่วนด้านในของอุโบสถจะมี พระพุทธพิบูลธนาภิรมย์ ประดิษฐานอยู่ ให้เราได้สักการะขอพรกันค่ะ

    ที่อยู่ : บ้านผักตบ ตำบลผักตบ อำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี
    เปิดให้เข้าชม : 06.00-18.00 น.

6. วัดเขาช่องชาด

     วัดเขาช่องชาด ตั้งอยู่บนบริเวณสันเขาภูพานคำ ในเขตของอุทยานแห่งชาติภูเก้า-ภูพานคำ ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2520 ไว้สำหรับเป็นสำนักสงฆ์ และล้อมรอบไปด้วยป่าเขาสีเขียวมากมาย โดยไฮไลท์ของที่นี่จะอยู่ที่บริเวณพระใหญ่ เพราะตรงนี้จะมีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นวิวสวยๆ ของอำเภอหนองวัวซอได้นั่นเองค่ะ ได้กราบพระไปด้วยและยังได้ชมวิวสวยๆ อีก น่าจะไปเยือนมากๆ เลยค่า

    ที่อยู่ : บ้านผักตบ ตำบลผักตบ อำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี
    โทร : 08-1061-0653
    เปิดให้เข้าชม : 06.00 - 18.00 น.

7. วัดป่าบ้านตาด

     วัดป่าบ้านตาด หรือที่เรียกกันว่า วัดหลวงตามหาบัว ซึ่งเป็นสถานที่พำนักของ หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ในครั้งที่ท่านยังมีชีวิตอยู่นั่นเองค่ะ นอกจากจะสามารถมาไหว้พระได้แล้ว ก็ยังมาปฏิบัติธรรมได้ด้วยเช่นกัน อีกทั้งภายในวัดก็จะมี อาคารพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์พระธรรมวิสุทธิมงคล ที่จัดแสดงชีวประวัติและคำสอนของหลวงตามหาบัวให้พุทธศาสนิกชนให้ได้ชม รวมไปถึงมีที่บรรจุอัฐิธาตุและเครื่องอัฐบริขารของหลวงตามหาบัวให้เราได้เคารพกราบไหว้กันด้วยค่ะ

    ที่อยู่ : ตำบลบ้านตาด อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี
    เปิดให้เข้าชม : 06.00-18.00 น.

8. วัดป่าบ้านค้อ

     วัดป่าบ้านค้อ แห่งนี้ สร้างขึ้นโดย พระอาจารย์ทูล ขิบปปญโญ เพื่อไว้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของพระภิกษุสงฆ์ สามเณร และเหล่าฆารวาส และในปัจจุบันเองนั้น ยังเป็นศูนย์พัฒนาจิตเฉลิมพระเกียรติประจำจังหวัดอุดรธานีอีกด้วย เลยทำให้มีพุทธศาสนิกชนมากมายเข้ามาฟังธรรมคำสอน และปฏิบัติธรรมกันอย่างไม่ขาดสายค่ะ ส่วนภายในวัดจะประดิษฐาน พระมหาธาตุเจดีย์ เฉลิมพระบารมีพระนวมินทร์ และมีการปลูก ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ซึ่งเป็นกิ่งพันธุ์มาจาก พรศรีมหาโพธิ์ ณ พุทธคยา ในประเทศอินเดียเลยค่ะ

    ที่อยู่ : ตำบลเขือน้ำ อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี
    เปิดให้เข้าชม : 06.00-18.00 น.
    โทร : -

9. วัดถ้ำสุมณฑาภาวนา

     วัดถ้ำสุมณฑา เป็นวัดที่มีชื่อเสียงอย่างมากในเรื่องของการวิปัสสนากรรมฐาน ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2504 ซึ่งจริงๆ แล้วถูกค้นพบจริงโดย หลวงปู่เหรียญชัย สมัยที่ยังเป็นสามเณร ท่านได้เดินธุดงค์มาพบสถานที่และได้ใช้เป็นที่นั่งสมาธินั่นเองค่ะ ความพิเศษของที่นี่คือบริเวณด้านหลังศาลา เราจะเห็นหน้าผาหินสูงชันอย่างสวยงามเลย ใครอยากเดินขึ้นไปชมวิวด้านบนก็สามารถเดินขึ้นไปได้เลยค่ะ

    ที่อยู่ : ตำบลผาสุก อำเภอวังสามหมอ จังหวัดอุดรธานี
    เปิดให้เข้าชม : สามารถเข้าชมได้ตามเวลาเปิดปิดของสถานที่

10. วัดป่าศรีคุณาราม

     วัดป่าศรีคุณาราม เมื่อก่อนนั้นจะมีชื่อว่า วัดป่าศรีคุณรัตนาราม ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของ หมู่บ้านจีต ซึ่งบริเวณนี้เองชาวบ้านจะเรียกกันว่า เหล่าปลาฝา ที่แปลว่า ตะพาบน้ำ เพราะที่นี่มีหินรูปปลาฝาครอบสี่เหลี่ยม เจาะเป็นโพรง เอาไว้สำหรับเก็บสิ่งของมีค่าต่างๆ อีกทั้งสมัยโบราณยังมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับหินรูปปลาฝานี้ด้วย แต่ปัจจุบันก็เหลือไว้แค่เพียงฐานสี่เหลี่ยมเจาะเป็นโพรงเท่านั้น นอกจากนี้ภายในวัดยังมี พระมหาเจดีย์มงคล ที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุเอาไว้อีกด้วยค่ะ

    ที่อยู่ : ตำบลบ้านจีต อำเภอกู่แก้ว จังหวัดอุดรธานี
    เปิดให้เข้าชม : 05.00-18.00 น.
    โทร : -

8
จัดฟันบางนา: ต้องทำอย่างไร เมื่อจะเข้ารับการจัดฟันแบบใส

การจัดฟันแบบใส เป็นการจัดฟันที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน ซึ่งหากพูดถึงเรื่องของการจัดฟันแล้วการจัดฟันสามารถแก้ไขปัญหาฟันได้แทบทุกกรณี ไม่ว่าจะเป็นฟันห่าง ฟันซ้อน ฟันเก หรือรวมไปถึงผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการขึ้นของฟันซึ่งปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ โดยการจัดฟันนั้น สามารถทำได้ตั้งแต่อายุยังน้อยและช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการจัดฟันนั่นก็คือ 11- 14 ปีเพราะในช่วงเวลานี้ร่างกายกำลังเจริญเติบโต รวมไปถึงการเคลื่อนของตัวฟันก็ง่ายและเป็นประโยชน์ต่อการจัดฟันมาก  ซึ่งหลายคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพช่องปากและฟันหรือแม้กระทั่งคนที่สูญเสียฟันธรรมชาติไปก็สามารถแก้ไขได้ด้วยการจัดฟัน

เพราะเมื่อฟันหักหรือหลุดออกไปก็จะทำให้เกิดช่องว่างระหว่างฟันและส่งผลให้เกิดฟันห่างได้ หลายคนก็เลือกใช้วิธีการรักษาฟันด้วยการฝังรากฟันเทียม ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีที่ดีอีกวิธีหนึ่งเช่นเดียวกัน แต่วิธีการรักษาด้วยวิธีการผ่าตัดฝังรากฟันเทียมนั้น จะต้องใช้ระยะเวลานานและฟื้นตัวได้ยาก หลายคนจึงเลือกวิธีการจัดฟันซึ่งการจัดฟันนั้นก็เป็นการรักษาระยะยาวเช่นเดียวกัน แต่ก็มีการจัดฟันอีกรูปแบบหนึ่งที่สามารถจัดฟันไปด้วยและคนอื่นจะสังเกตได้ยากว่าคุณกำลังเข้ารับการจัดฟันอยู่ นั่นก็คือการจัดฟันแบบใส ซึ่งการจัดฟันแบบใสนั้น หลายคนคงทราบดีแล้วว่าสามารถถอดเครื่องมือการจัดฟันได้ อีกทั้งเครื่องมือการจัดฟันยังมีลักษณะใสทำให้สามารถบอกได้ยากว่าคุณกำลังเข้ารับการจัดฟัน

สำหรับใครที่สนใจก็อยากทราบว่าถ้าหากคุณจะเข้ารับการจัดฟันแบบใสนั้น จะต้องเตรียมตัวอย่างไรและมีวิธีการอย่างไรบ้าง วันนี้ทางคลินิกเราจะมาพูดถึงการเข้ารับการจัดฟันแบบใส ว่าจะต้องทำอย่างไรและมีวิธีการอย่างไรบ้างเผื่อใครสนใจก็สามารถทราบถึงรายละเอียดดังกล่าวได้ สำหรับทางคลินิกเราก็มีบริการการจัดฟันแบบใสโดยทีมแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญที่ผ่านการอบรมเฉพาะด้านและมีประสบการณ์อย่างยาวนาน หากใครสนใจสามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ ทางเรามีเจ้าหน้าที่ที่คอยให้คำแนะนำ

สำหรับการจัดฟันแบบใสนั้นจะมีวิธีการคือ ทันตแพทย์จะทำการบันทึกแบบฟันด้วยวิธีการใช้เครื่องสแกนแบบสามมิติและจากนั้นก็ทำการออกแบบเครื่องมือการจัดฟันโดยเครื่องมือการจัดฟันแบบใสจะผลิตด้วยเทคโนโลยีตามแผนการจัดฟันที่จัดขึ้นมาเฉพาะบุคคลและจากนั้นทันตแพทย์ก็จะทำการมอบเครื่องมือการจัดฟันแบบใสให้กับผู้เข้ารับการจัดฟันโดยเครื่องมือการจัดฟันชุดแรกให้ และทันตแพทย์ก็จะทำการตรวจสอบให้แน่ใจว่าเครื่องมือการจัดฟันที่ออกแบบมานั้น เมื่อผู้เข้ารับการจัดฟันสงสัยแล้วมีความพอดี  ซึ่งเครื่องมือการจัดฟันนั้นเองผู้เข้ารับการรักษาจะต้องสวมใส่เครื่องมือทุกวันและเปลี่ยนเครื่องมือทุกๆสองสัปดาห์โดยประมาณ โดยทันตแพทย์จะทำการนัดทุกๆ 6-8 สัปดาห์ เพื่อติดตามความคืบหน้าของการรักษาและการปรับ เครื่องมือการจัดฟันแบบใสในชุดถัดไป หลังจากที่เข้ารับการจัดฟันแบบใสเสร็จแล้วก็จะต้องสวมใส่รีเทนเนอร์เพื่อรักษาโครงสร้างฟันเอาไว้ไม่ให้เคลื่อนหรือเปลี่ยนทิศทางไปจากเดิม

ทั้งนี้ผู้เข้ารับการรักษาจะต้องมีความผิดวินัยในการสวมใส่เครื่องมือการจัดฟันสามารถถอดได้เฉพาะเวลารับประทานอาหารและแปรงฟัน หากใส่ๆถอดๆก็อาจจะทำให้ไม่ได้ผล ซึ่งการจัดฟันแบบใสนั้นมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงประมาณ 150,000-200,000 บาท และใช้ประหยัดเวลานานกว่าการจัดฟันแบบสงสัยเหล็กจัดฟันกับทั่วไปซึ่งก็จะขึ้นอยู่กับโครงสร้างของฟันสุขภาพช่องปากและการดูแลรักษา รวมไปถึงวินัยของผู้เข้ารับการรักษาด้วย ทางคลินิกเรามีบริการจัดฟันแบบใส หากใครสนใจสามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ ทางเรามีทีมทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ และยังมีดปรโมชั่นสำหรับผู้ที่สนใจ โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 49,000 บาท จากปกติ 69,000 บาท  และสามารถเข้ารับการประเมินช่องปากและเข้ารับการตรวจเบื้องต้นได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ

9
ตรวจอาการเบื้องต้นด้วยตนเอง: กระดูกซี่โครงหัก (Rib fracture) และภาวะอกรวน (Flail chest)

กระดูกซี่โครงหัก มีความรุนแรงมากน้อยขึ้นกับลักษณะของการบาดเจ็บ ส่วนมากจะไม่มีอาการรุนแรงและค่อย ๆ หายได้เอง ส่วนน้อยอาจมีภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง


สาเหตุ

มักเกิดจากแรงกระแทกถูกบริเวณซี่โครงโดยตรง เช่น ถูกตี ถูกเตะ หกล้ม กระแทก ถูกพื้นหรือมุมโต๊ะ ถูกรถชน เป็นต้น


อาการ

ผู้ป่วยจะมีอาการปวดขณะก้มงอ บิดตัวหรือหายใจแรง ๆ และเมื่อใช้นิ้วกดถูกเบา ๆ จะรู้สึกเจ็บ

ถ้ากระดูกหักรุนแรง ทิ่มแทงถูกเนื้อปอด อาจทำให้เกิดภาวะมีลมในโพรงเยื่อหุ้มปอดหรือปอดทะลุ หรือมีเลือดออกในโพรงเยื่อหุ้มปอด (hemothorax) ผู้ป่วยจะมีอาการหอบ ตัวเขียว ไอออกเป็นฟองเลือดสด ๆ หรือช็อก หน้าอกเคาะโปร่ง (ถ้ามีลมในโพรงเยื่อหุ้มปอด) หรือเคาะทึบ (ถ้ามีเลือดในโพรงเยื่อหุ้มปอด)

ถ้ามีบาดแผลที่ผิวหนัง ทะลุถึงในปอด จะมีลมจากภายนอกผ่านบาดแผลเข้าไปในโพรงเยื่อหุ้มปอด ทำให้เกิดภาวะมีลมในโพรงเยื่อหุ้มปอดได้เช่นกัน

ถ้ากระดูกซี่โครงหักหลายแห่ง (มักพบในกรณีที่เกิดจากรถชน รถคว่ำ) อาจทำให้เกิดภาวะอกรวน (flail chest) ซึ่งเป็นกรณีที่กระดูกซี่โครงหักติดต่อกันตั้งแต่ 3 ซี่ขึ้นไป และแต่ละซี่หักมากกว่า 2 ตำแหน่ง การหักนี้อาจหักข้างเดียวหรือทั้งสองข้างของทรวงอก เกิดส่วนที่แยกออกจากผนังทรวงอกเรียกว่า "ส่วนลอย" (floating segment) ทำให้ผนังทรวงอกเสียรูป เกิดการเคลื่อนไหวของทรวงอกที่ผิดปกติ (paradoxical chest movement) จะมีอาการหอบ ตัวเขียว ช็อก และหายใจผิดธรรมดา คือ หน้าอกส่วนนั้นจะยุบลงเวลาหายใจเข้าและโป่งขึ้นเวลาหายใจออก ซึ่งตรงกันข้ามกับหน้าอกส่วนที่ปกติ ส่งผลให้ประสิทธิภาพของการแลกเปลี่ยนก๊าซในปอดลดลงและทำให้เกิดภาวะขาดออกซิเจนได้ ภาวะอกรวนมักเกิดในคนอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไปมากกว่าคนหนุ่มสาว


ภาวะแทรกซ้อน

กระดูกที่หักอาจทิ่มแทงถูกเนื้อปอด ทำให้เกิดภาวะมีเลือดหรือลมในโพรงเยื่อหุ้มปอด หรืออาจเกิดภาวะอกรวนเป็นอันตรายได้


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการและสิ่งตรวจพบ และตรวจยืนยันโดยการเอกซเรย์


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

1. ถ้ากระดูกซี่โครงหักแบบธรรมดา ไม่มีภาวะแทรกซ้อน เพียงแต่รู้สึกเจ็บปวดขณะเคลื่อนไหวหรือหายใจแรง ๆ ให้นอนพัก พยายามเคลื่อนไหวให้น้อยที่สุด อย่าหายใจเข้าออกแรง ๆ และให้กินยาแก้ปวด ไม่จำเป็นต้องใช้ผ้าพันหรือเข้าเฝือกรอบหน้าอก อาการเจ็บปวดจะค่อย ๆ ดีขึ้น อาจกินเวลา 1-2 สัปดาห์ และกว่าอาการปวดจะหายขาดอาจกินเวลาเป็นเดือน ๆ

2. ถ้ามีอาการหอบ ตัวเขียว ช็อก หรือสงสัยมีลมหรือเลือดอยู่ในโพรงเยื่อหุ้มปอด หรือสงสัยมีภาวะอกรวน จะต้องรับตัวไว้รักษาในโรงพยาบาล และทำการแก้ไขตามภาวะที่พบ


การดูแลตนเอง

หากสงสัย ควรปรึกษาแพทย์โดยเร็ว

เมื่อได้รับการวินิจฉัยว่ากระดูกหัก ควรดูแลรักษาตามคำแนะนำของแพทย์ และติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด


การป้องกัน

ระมัดระวังป้องกันตัวเองในเรื่องการเกิดอุบัติเหตุ และการหกล้ม


ข้อแนะนำ

ผู้ที่มีอาการเจ็บบริเวณซี่โครงตรงที่ถูกแรงกระแทก เวลาเคลื่อนไหวหรือหายใจแรง ๆ ถึงแม้จะไม่มีอาการผิดปกติ (เช่น หายใจลำบากหรือหายใจผิดปกติ) ร่วมด้วย ก็ควรปรึกษาแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยให้แน่ชัด

10
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น
•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”


สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/


11
จัดฟันบางนา: การจัดฟันแบบใส เวลาเครื่องมือทำงาน จะรู้สึกเจ็บหรือไม่

การจัดฟันแบบใส เป็นการรักษาทางทันตกรรมรูปแบบหนึ่งที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เพราะการจัดฟันแบบใส สามารถตอบโจทย์ไลพ์สไตล์ของคนในยุคปัจจุบันได้เป็นอย่างดี เนื่องจากการจัดฟันแบบใส มีความแตกต่างจากการจัดฟันในรูปแบบทั่วไปที่มีเหล็กจัดฟันอยู่ภายในช่องปาก ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้ แต่การจัดฟันแบบใสนั้น มีเครื่องมือการจัดฟันที่สามารถถอดออกได้ขณะรับประทานอาหารหรือขณะแปรงฟัน นอกจากนี้ เครื่องมือการจัดฟันยังมีความบางและใส เมื่อเราสวมใส่เครื่องมือการจัดฟันแล้ว ทำให้คนอื่นมองแทบไม่ออกเลยว่าเรากำลังเข้ารับการจัดฟันอยู่ ซึ่งนี่ก็คือข้อดีของการจัดฟันแบบใส เพราะจะช่วยทำให้รู้สึกมีความมั่นใจ ทำให้ยิ้มได้อย่างสดใส สวยงาม มากกว่าการจัดฟันแบบทั่วไป ที่เวลายิ้มจะเห็นเครื่องมือการจัดฟันทำให้บางคนขาดความมั่นใจได้ สำหรับการจัดฟันแบบใส

ทางการทันตกรรมได้มีการพัฒนานำรูปแบบใหม่ทำให้สามารถวางแผนการรักษาได้ด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ผู้เข้ารับการจัดฟันสามารถออกแบบรอยยิ้มร่วมกับทันตแพทย์ได้ ทำให้ตอบโจทย์ตอบผู้เข้ารับการจัดฟันมากที่สุด และทำให้เราได้ผลการรักษาที่พึงพอใจตามแบบที่เราต้องการ ในแง่ของการสวมใส่เครื่องมือการจัดฟันแบบใส ทันตแพทย์จะแนะนำให้เราสวมใส่เครื่องมืออย่างน้อยวันละ 20- 22 ชั่วโมง เพื่อให้เครื่องมือการจัดฟันสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งการทำงานของเครื่องมือการจัดฟันแบบใสนั้น เราต้องอธิบายก่อนว่าเครื่องมือการจัดฟันแบบใส ทันตแพทย์จะทำการออกแบบเครื่องมือมาเฉพาะบุคคล ทำให้เครื่องมือการจัดฟันสามารถเข้ากับช่องปากของผู้เข้ารับการจัดฟันได้อย่างพอดี จึงทำให้การทำงานของเครื่องมือมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

สำหรับวันนี้เราจะมาพูดถึงการทำงานของเครื่องมือการจัดฟันแบบใส ซึ่งหลายคนที่เคยเข้ารับการจัดฟันแบบทั่วไปเวลาที่เราต้องเข้าพบทันตแพทย์เพื่อเข้ารับการติดเครื่องมือ ได้ทำการปรับเครื่องมืออาจจะทำให้รู้สึกเจ็บและตึงเลยภายในช่องปาก เนื่องจากเครื่องมือการจัดฟันอาจจะรั้งดึงฟัน เพราะนี่คือการทำงานของเครื่องมือการจัดฟันแบบติดแน่น ซึ่งอาจจะทำให้ผู้เข้ารับการจัดฟันรู้สึกเจ็บปวด แต่ในการจัดฟันแบบใส หลายคนทราบกันดีอยู่แล้วว่าเครื่องมือของการจัดฟันแบบใสนั้น มีความบางเรียบและมีความใส และออกแบบมาเฉพาะบุคคลทำให้เครื่องมือสามารถเข้ากับช่องปากของผู้เข้ารับการจัดฟันได้อย่างพอดี


ซึ่งการทำงานของเครื่องมือการจัดฟันแบบใสนั้น เมื่อเราสวมใส่เครื่องมือเครื่องมือก็จะทำงาน โดยจะช่วยทำให้ฟันเคลื่อนไปในตำแหน่งที่ทันตแพทย์ได้กำหนดไว้ จะไม่ทำให้เรารู้สึกเจ็บเพราะเครื่องมือการจัดฟันแบบใส จะเคลื่อนตัวไปอย่างช้าๆด้วยแรงที่เบามาก จึงไม่ทำให้เรารู้สึกเจ็บปวด เพราะเครื่องมือการจัดฟันจะไม่รั้งดึง ทำให้รู้สึกเจ็บปวด ดังนั้น จึงสรุปได้ว่าการจัดฟันแบบใสเมื่อเราสวมใส่เครื่องมือการจัดฟัน แล้วเมื่อเครื่องมือทำงานจะไม่ทำให้เรารู้สึกเจ็บปวดนั่นเอง

อย่างไรก็ตามผู้เข้ารับการจัดฟันแบบใสจะต้องสวมใส่เครื่องมืออย่างน้อยวันละ 20 -22 ชั่วโมง ตามที่ทันตแพทย์แนะนำเพื่อให้เครื่องมือการจัดฟันเคลื่อนตัวไปยังตำแหน่งที่ทันตแพทย์วางไว้ เพื่อให้ได้รับผลการรักษาอย่างแม่นยำ ดังนั้น สิ่งสำคัญของการจัดฟันแบบใสก็ขึ้นอยู่กับระเบียบวินัยของผู้เข้ารับการจัดฟันด้วย

12
ตรวจอาการเบื้องต้นด้วยตนเอง: ไส้ติ่งอักเสบ (Appendicitis)
   
ไส้ติ่งอักเสบ (Appendicitis) คือการอักเสบของไส้ติ่งที่อยู่บริเวณลำไส้ใหญ่ส่วนต้น โดยตำแหน่งจะตรงกับท้องด้านล่างขวา เมื่อไส้ติ่งอักเสบอาจทำให้รู้สึกปวดบริเวณดังกล่าวอย่างเฉียบพลัน อาการปวดจะรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ และหากไส้ติ่งที่อักเสบแตกอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

ไส้ติ่งอักเสบเป็นโรคที่พบได้บ่อย เกิดได้กับทุกเพศทุกวัย นับเป็นอาการที่เกิดขึ้นอย่างเฉียบพลันและอันตราย ผู้ป่วยต้องได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีด้วยการผ่าตัด เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะไส้ติ่งแตก


อาการของโรคไส้ติ่งอักเสบ

ไส้ติ่งอักเสบมักเป็นอาการที่เกิดขึ้นได้อย่างเฉียบพลัน มักเป็นมากขึ้นและอาการแย่ลงภายใน 24 ชั่วโมง โดยอาการของภาวะไส้ติ่งอักเสบที่พบได้ทั่วไป คือ

มีอาการปวดอย่างเฉียบพลันที่บริเวณรอบสะดือ ต่อมาย้ายไปปวดที่ท้องน้อยด้านล่างขวาเนื่องจากการอักเสบที่ลุกลามมากขึ้น
มีอาการปวดมากขึ้นขณะที่ไอ จาม เดิน ขยับตัว หรือกดบริเวณท้อง
คลื่นไส้ อาเจียน
เบื่ออาหาร
มีไข้ต่ำ ๆ ระหว่าง 37.2–38 องศาเซลเซียส
ท้องเสีย ท้องผูก ท้องอืด และไม่ผายลมร่วมด้วย
ปัสสาวะบ่อยขึ้น เนื่องจากการอักเสบที่มากขึ้นของไส้ติ่งไปกระตุ้นท่อไตของระบบทางเดินปัสสาวะที่อยู่ใกล้กัน
ในกลุ่มผู้ป่วยที่เป็นสตรีมีครรภ์จะมีอาการปวดบริเวณหน้าท้องส่วนบนด้านขวาแทน เนื่องจากอวัยวะต่าง ๆ ถูกดันให้สูงขึ้นเพื่อรองรับการขยายตัวของมดลูก ไส้ติ่งของสตรีมีครรภ์จึงจะเคลื่อนไปอยู่ที่บริเวณหน้าท้องส่วนบน นอกจากนี้ อาจมีอาการปวดบีบที่ท้อง มีแก๊สในกระเพาะอาหาร แสบร้อนที่กลางอก และอาจพบอาการท้องเสียหรือท้องผูกควบคู่กัน

ผู้ที่มีอาการข้างต้นเกิดขึ้นควรรีบไปพบแพทย์ เนื่องจากไส้ติ่งที่อักเสบสามารถแตกได้ภายใน 48–72 ชั่วโมง โดยเฉพาะเมื่อรู้สึกปวดลามไปทั่วท้อง และมีไข้สูง 40 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นสัญญาณว่าไส้ติ่งแตก และควรได้รับการผ่าตัดอย่างเร่งด่วน

ในบางกรณี ผู้ป่วยอาจมีอาการไส้ติ่งอักเสบเรื้อรัง ซึ่งพบได้น้อยกว่าไส้ติ่งอักเสบเฉียบพลันและยังวินิจฉัยได้ยาก ส่วนใหญ่จะทราบเมื่อมีอาการไส้ติ่งอักเสบเฉียบพลันเกิดขึ้นก่อน โดยอาการจะคล้ายไส้ติ่งอักเสบเฉียบพลัน แต่อาการไม่รุนแรงมากและไม่หายขาด บางรายอาจมีอาการนานหลายสัปดาห์ หลายเดือน หรือหลายปี


สาเหตุของโรคไส้ติ่งอักเสบ

ภาวะการอักเสบในไส้ติ่งอาจเกิดจากการอุดตันภายในไส้ติ่งเอง โดยสิ่งที่ไปอุดตันอาจเป็นได้ทั้งเศษอุจจาระขนาดเล็กที่แข็งตัว สิ่งแปลกปลอม หรืออาจเป็นก้อนเนื้อมะเร็ง ทำให้ไส้ติ่งเกิดการติดเชื้อและบวมขึ้น 

บางครั้งอาจเกิดจากการติดเชื้อในทางเดินอาหารจากไวรัส แบคทีเรีย หรือปรสิต หรือเป็นการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจส่วนบนที่ส่งผลให้ต่อมน้ำเหลืองภายในผนังลำไส้บวมขึ้นจนไปปิดกั้นไส้ติ่ง ทำให้ไส้ติ่งอักเสบในที่สุด

ไส้ติ่งอักเสบเกิดขึ้นได้ทุกเพศทุกวัย แต่พบได้บ่อยในคนอายุตั้งแต่ 10–30 ปี และอาจพบในกลุ่มเด็กที่มีอายุ 5 ปีขึ้นไปด้วย โดยพบในเพศชายมากกว่าเพศหญิง และผู้ที่มีคนในครอบครัวมีประวัติไส้ติ่งอักเสบมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคนี้ได้สูงกว่าคนทั่วไป


การวินิจฉัยโรคไส้ติ่งอักเสบ

การวินิจฉัยอาการไส้ติ่งอักเสบค่อนข้างเป็นไปได้ยาก เนื่องจากอาการของไส้ติ่งอักเสบคล้ายกับโรคอื่น ๆ เช่น ปัญหาถุงน้ำดี การติดเชื้อที่ระบบทางเดินปัสสาวะ โรคลำไส้อักเสบโครห์น โรคกระเพาะอาหารอักเสบ การติดเชื้อในลำไส้ ปัญหารังไข่ และโรคลำไส้แปรปรวนอย่างรุนแรง

แพทย์จะมีการซักถามอาการและระยะเวลาที่เป็น จากนั้นจะตรวจร่างกายโดยกดเบา ๆ บริเวณท้องของผู้ป่วย ตรวจทวารหนักหรือหากเป็นผู้ป่วยหญิงจะตรวจอุ้งเชิงกราน และอาจมีการตรวจด้วยวิธีอื่นตามความเหมาะสม เพื่อระบุอาการให้แน่ชัดขึ้น เช่น


การตรวจเลือด เพื่อหาสัญญาณของการติดเชื้อ

การตรวจปัสสาวะ ซึ่งอาจทำให้ตรวจพบโรคระบบทางเดินปัสสาวะหรือนิ่วในไตที่อาจเป็นสาเหตุของไส้ติ่งอักเสบ
การเอกซเรย์ช่องท้อง อัลตราซาวด์ (Ultrasound) การเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan) และการตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI)
เมื่อระบุได้แล้วว่าเป็นภาวะไส้ติ่งอักเสบ แพทย์จะแนะนำให้เข้ารับการผ่าตัดโดยเร็วที่สุด เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะไส้ติ่งแตก และอาการข้างเคียงต่าง ๆ ที่เป็นอันตรายต่อตัวผู้ป่วยเอง หากผ่าตัดแล้วแพทย์พบว่าไส้ติ่งที่ตัดออกมีความผิดปกติ อาจมีการส่งตรวจเพิ่มเติมด้วยเช่นกัน


การรักษาโรคไส้ติ่งอักเสบ

ไส้ติ่งอักเสบรักษาได้ด้วยการผ่าตัด โดยวิธีผ่าตัดที่นิยมใช้ในปัจจุบันคือการผ่าตัดแบบส่องกล้อง (Laparoscopic surgery) เพราะเป็นการผ่าตัดเล็ก สามารถกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้ทันที เหมาะกับกรณีที่ไส้ติ่งอักเสบยังอยู่ในระยะไม่ร้ายแรงนัก

หากอาการรุนแรงถึงขั้นไส้ติ่งแตกจำเป็นต้องใช้การผ่าตัดแบบเปิด (Open Surgery) ที่เป็นการผ่าตัดแบบมาตรฐาน เพื่อนำไส้ติ่งที่แตกออก ทำความสะอาดภายในช่องท้อง และใส่ท่อเพื่อระบายหนองจากฝีที่เกิดขึ้น

ผู้ป่วยที่เข้ารับการผ่าตัดแบบส่องกล้องจะกลับมาเป็นปกติภายในไม่กี่วันหลังจากผ่าตัด แต่หากเข้ารับการผ่าตัดแบบเปิด ผู้ป่วยต้องพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลเพื่อดูอาการที่อาจนานประมาณ 1 สัปดาห์ และรับประทานยาปฏิชีวนะตามที่แพทย์สั่ง รวมถึงควรหลีกเลี่ยงการยกของหนักหรือทำกิจกรรมที่ต้องใช้แรงมากหลังการผ่าตัดประมาณ 4–6 สัปดาห์

แพทย์อาจสั่งยาเพื่อบรรเทาอาการท้องผูกหลังผ่าตัด หรือแนะนำให้ผู้ป่วยรับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูงเพื่อช่วยในการขับถ่าย หากผู้ป่วยมีไข้สูง อาเจียนอย่างรุนแรง เจ็บที่บริเวณแผลผ่าตัด หรือบริเวณแผลผ่าตัดมีลักษณะที่ผิดปกติ เช่น จับแผลแล้วรู้สึกร้อน แผลบวมแดง ควรรีบไปพบแพทย์ เพราะอาจเป็นสัญญาณของอาการติดเชื้อที่แผลผ่าตัด

ภาวะแทรกซ้อนของโรคไส้ติ่งอักเสบ
ภาวะแทรกซ้อนของไส้ติ่งอักเสบจะเกิดขึ้นเมื่อผู้ป่วยไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีจนทำให้เกิดภาวะไส้ติ่งแตก ส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็นอาการที่เกิดจากเชื้อโรคที่แพร่กระจายจากไส้ติ่งที่แตก เช่น


เยื่อบุช่องท้องอักเสบ

เมื่อไส้ติ่งที่อักเสบแตก เชื้อโรคจะแพร่กระจายไปยังเนื้อเยื่อที่อยู่ข้างเคียง และก่อให้เกิดการอักเสบของเนื้อเยื่อภายในช่องท้อง ผู้ป่วยจะมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรงตลอดเวลา มีไข้สูง หัวใจเต้นเร็ว หายใจถี่ และมีอาการบวมบริเวณหน้าท้อง หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต โดยแพทย์จะมีการใช้ยาปฏิชีวนะและผ่าตัดเพื่อนำไส้ติ่งที่แตกออก


ฝีในช่องท้อง

ผู้ป่วยบางรายที่มีภาวะไส้ติ่งแตกอาจมีฝีเกิดขึ้นภายในช่องท้อง ซึ่งเป็นหนึ่งในกระบวนการต่อสู้เชื้อโรคของร่างกาย โดยป้องกันไม่ให้การติดเชื้อแพร่กระจายไปสู่อวัยวะใกล้เคียง ผู้ที่มีฝีในช่องท้องต้องรักษาด้วยการต่อท่อระบายหนองออกจากฝีประมาณ 2 สัปดาห์ ร่วมกับการใช้ยาปฏิชีวนะเพื่อรักษาอาการติดเชื้อ


การป้องกันโรคไส้ติ่งอักเสบ

ไส้ติ่งอักเสบไม่สามารถป้องกันได้ เนื่องจากเป็นอาการที่มักเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลันโดยหาสาเหตุแน่ชัดไม่ได้ แต่การรับประทานผักผลไม้ที่มีไฟเบอร์สูงอาจช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดไส้ติ่งอักเสบได้ และหากพบว่ามีอาการติดเชื้อหรือการอักเสบที่ลำไส้ ควรรีบไปพบแพทย์ เพื่อป้องกันการอักเสบนั้นอาจลุกลามไปถึงไส้ติ่ง

13
การเตรียมตัวก่อนย้ายบ้าน กับ บริการรถรับจ้างขนย้ายบ้านสมุทรปราการ

เมื่อคุณต้องการ บริการรถรับจ้างสมุทรปราการ ที่ครบวงจรและครอบคลุมทุกรูปแบบขนส่งในสมุทรปราการ ทางเรามีบริการ รถกระบะรับจ้าง และ รถหกล้อรับจ้าง ที่พร้อมจะบริการคุณ ให้ท่านได้เลือกใช้บริการอย่างสะดวกสบาย และปลอดภัยทุกการเดินทาง

    บริการรถกระบะรับจ้าง : รถกระบะขนาดพอดีที่จะตอบสนองทุกความต้องการของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการขนส่งสินค้า ย้ายของ หรือใช้บริการในงานก่อสร้าง รถกระบะของเรามีความจุพร้อมให้บริการและครอบคลุมทุกประการ
    บริการรถหกล้อรับจ้าง : ถ้าคุณมีความต้องการในการขนส่งสินค้าหรือบรรจุภัณฑ์ที่ใหญ่ขนาด รถหกล้อของเรามีความจุที่มากพอสมควรและสามารถรองรับน้ำหนักมาก ทำให้เป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับงานขนส่งทุกรูปแบบ


บริการที่คุณไว้วางใจได้

    บริการรถรับจ้างที่มีความปลอดภัยและความถูกต้อง
    ความสะดวกสบายในการจัดส่งและรับส่ง
    ค่าบริการที่เป็นกันเองและเหมาะสม
    ทีมคนงานที่มีความเชี่ยวชาญและใส่ใจในการให้บริการ


รถกระบะรับจ้างขนสินค้าออนไลน์

    วางแผนย้ายบ้านอย่างไร ให้ราบรื่นและมีประสิทธิภาพ

    กำหนดวันและเวลา : กำหนดวันและเวลาที่คุณต้องการที่จะ ย้ายบ้าน นี่คือขั้นตอนเริ่มต้นที่สำคัญที่จะช่วยให้คุณมีเวลาในการจัดการและระบุรายละเอียดของการย้ายบ้าน
    สร้างรายชื่องาน : สร้างรายชื่อทุกงานที่ต้องทำก่อนการย้ายบ้าน รวมถึงการบรรจุของของใช้ การยกเลิกบริการ การเปลี่ยนที่อยู่ การตรวจสอบเอกสาร และอื่น ๆ
    จัดระเบียบของใช้ : ตรวจสอบของใช้และสินค้าที่คุณต้องการย้าย แยกแยะระหว่างของที่ควรย้ายและของที่ควรทิ้ง สิ่งที่ไม่ต้องการสามารถถูกขาย บริจาค หรือทิ้งทิ้งตามความเหมาะสม
    รายละเอียดการเช่ารถรับจ้าง : หากคุณใช้บริการรถรับจ้างในกระบวนการย้ายบ้าน, คุณควรระบุรายละเอียดของการเช่ารถรับจ้าง รวมถึงประเภทของรถ ขนาด ราคา และสถานที่รับ-ส่ง
    บรรจุของใช้ : บรรจุของใช้ให้เรียบร้อยในกล่องและหอบต่าง ๆ โดยใส่สิ่งที่หนูรู้ด้วยกระดาษหรือพลาสติกสำหรับป้องกันความเสียหาย ให้แต่ละกล่องระบุเนื้อหาและหมายเลขห้อง
    การเตรียมอุปกรณ์ : มั่นใจว่าคุณมีอุปกรณ์บริเวณเพื่อการย้ายบ้าน เช่น กล่อง เทปปิ้ง กระดาษหีบของ มีด และซิลิโคน
    รายละเอียดการย้ายที่อยู่ใหม่ : ติดต่อกับการไฟฟ้า น้ำประปา อินเทอร์เน็ต และบริการสื่อสารเพื่อปิดบริการที่ที่อยู่เก่าและเปิดบริการที่ที่อยู่ใหม่
    การบรรจุของบันทึกและเอกสาร : รักษารายละเอียดการย้าย เอกสารบ้าน รายชื่อที่เหมาะกับคนติดต่อ และเอกสารสำคัญอื่น ๆ ในกล่องเฉพาะหรือไฟล์เรียบร้อย
    แจ้งคนติดต่อ : แจ้งคนติดต่อที่จำเป็นเกี่ยวกับการเปลี่ยนที่อยู่ของคุณ เช่น ญาติ เพื่อน และหน่วยงานที่สำคัญ
    การตรวจสอบรายละเอียดสุดท้าย : ตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมดอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าคุณไม่พลาดข้อสำคัญใด ๆ และความพร้อมสำหรับการย้ายบ้าน

การวางแผนย้ายบ้านช่วยให้คุณประหยัดเวลาและเงินในกระบวนการย้ายบ้าน และลดความสับสนและความเครียดในวันย้ายบ้าน

   
การเตรียมอุปกรณ์และของใช้ก่อนย้ายบ้าน

เป็นขั้นตอนสำคัญในกระบวนการย้ายบ้าน เนื่องจากมันช่วยให้คุณมีความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพในการจัดการของใช้ของคุณในการย้ายของมาที่อยู่ใหม่ของคุณ นี่คือขั้นตอนในการเตรียมอุปกรณ์และของใช้ก่อนย้ายบ้าน

    กำหนดของใช้ที่ต้องการย้าย : ทำการตรวจสอบของใช้ทั้งหมดและกำหนดของที่คุณต้องการย้ายมาที่บ้านใหม่ ลิสต์ออกชิ้นสิ่งนั้นเพื่อความชัดเจน
    สร้างกล่องหรือพื้นที่การจัดเก็บ : ใช้กล่องหรือบริเวณเก็บของเพื่อจัดเรียงของใช้ที่คุณต้องการย้าย ให้แต่ละกล่องเป็นชื่อและรายชื่อเนื้อหา
    สั่งซื้อวัสดุบรรจุ : ซื้อกล่องบรรจุ เทปปิ้ง กระดาษหีบของ และวัสดุบรรจุอื่น ๆ เพื่อช่วยในการบรรจุของใช้ให้ปลอดภัย
    แยกแยะของใช้ : แยกแยะของใช้ตามประเภทและความบ่งคอบ นี่ช่วยให้คุณสามารถจัดเรียงและบรรจุของใช้อย่างมีระเบียบ
    บรรจุของใช้ : วางของใช้ในกล่องหรือหอบโดยใช้วัสดุบรรจุเพื่อป้องกันความเสียหาย แต่ละกล่องควรมีป้ายชื่อและรายละเอียดเนื้อหา
    การบันทึกรายละเอียด : บันทึกรายละเอียดของของใช้ที่อยู่ในกล่องหรือหอบ เช่น หมายเลขห้อง รายละเอียดเกี่ยวกับเนื้อหา และสถานที่ที่ควรวาง
    บรรจุของใช้แต่ละวันหรือตามความเรียบร้อย : ไม่บรรจุของใช้ที่คุณอาจต้องใช้ทุกวันในกล่องหรือถาดเล็ก เพื่อให้สามารถเข้าถึงของใช้นี้ได้ง่าย
    บรรจุเครื่องมือและอุปกรณ์ : สำรองการบรรจุเครื่องมือและอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการเคลื่อนย้าย เช่น กระดาษสลิง กระดาษซิลิโคน มีด เครื่องวัด และอุปกรณ์ต่าง ๆ
    รักษาของบันทึกและเอกสารสำคัญ : รักษาเอกสารสำคัญเช่น เอกสารที่เกี่ยวข้องกับบ้าน เอกสารบ้าน สัญญาเช่า และเอกสารการเงินในที่เฉพาะหรือซองให้ความรอบรู้

การเตรียมอุปกรณ์และของใช้ก่อนย้ายบ้าน บริการรถรับจ้างสมุทรปราการ จะช่วยให้คุณมีกระบวนการย้ายที่เรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ และทำให้คุณลดความสับสนและความเครียดในวันย้ายบ้านรถ 6 ล้อรับจ้าง

   
การตรวจสอบค่าใช้จ่ายและราคาของบริการรถรับจ้าง

เป็นขั้นตอนสำคัญในกระบวนการย้ายบ้าน เพื่อให้คุณไม่มีค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด บริการรถรับจ้างสมุทรปราการ ที่คุณสามารถรับได้ตามงบประมาณของคุณ นี่คือขั้นตอนในการตรวจสอบค่าใช้จ่ายและราคาของบริการรถรับจ้าง

    ขอใบเสนอราคา : ติดต่อบริการรถรับจ้างและขอใบเสนอราคาสำหรับการย้ายของคุณ ในใบเสนอราคา ควรระบุรายละเอียดเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายทั้งหมดเช่น ค่าบริการ ค่าจัดจรัส ค่าน้ำมัน ค่าแรงงาน ภาษี ค่าอุปกรณ์เสริม และค่าบริการอื่น ๆ
    แจ้งรายละเอียดการย้าย : ให้บริการรถรับจ้างทราบรายละเอียดเกี่ยวกับการย้ายบ้านของคุณ รวมถึงปริมาณและขนาดของของใช้ที่ต้องการย้าย ระยะทาง และประเภทของบริการที่คุณต้องการ
    ตรวจสอบค่าใช้จ่ายแนะนำ : หากค่าใช้จ่ายที่แสดงในใบเสนอราคาอาจมีความสูงเกินกระบวนการย้ายของคุณ คุณสามารถขอคำแนะนำจากบริการรถรับจ้างว่าจะทำอย่างไรให้ลดค่าใช้จ่ายหรือจัดลดราคาให้คุณ
    สารสำคัญ : ตรวจสอบข้อกำหนดในสัญญาหรือใบเสนอราคาอย่างรอบคอบเพื่อให้แน่ใจว่าคุณทราบถึงข้อกำหนดเช่นเวลาการเช่า ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม และนโยบายการยกเลิก
    การกระทำของการเช่า : ควรตรวจสอบว่าค่าใช้จ่ายถูกเรียกเก็บเมื่อบริการรถรับจ้างถูกจัดให้ในระหว่างย้ายบ้าน แนะนำให้ตรวจสอบใบเสร็จราคาหรือสัญญาก่อนที่คุณจะตรอกหรือตัดสดับข้อมูลการชำระเงิน
    การสรุป : หลังจากการตรวจสอบค่าใช้จ่ายและราคาของบริการรถรับจ้างอย่างรอบคอบและพิจารณารายละเอียดของสัญญาหรือใบเสนอราคา สรุปค่าใช้จ่ายรวมทั้งหมดและสร้างงบประมาณสำหรับการย้ายของคุณ

การตรวจสอบค่าใช้จ่ายและราคาของบริการรถรับจ้างช่วยให้คุณวางแผนได้อย่างดีเพื่อไม่ให้เกิดค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิดในการย้ายบ้านและให้คุณรับบริการที่มีคุณภาพในราคาที่คุณสามารถรับได้

14
รถขนของไปต่างจังหวัด รถกระบะรับจ้างบึงกาฬ เช็คราคา รับจ้างขนของ4ล้อ ปิ๊คอัพ ราคาถูก

สำหรับใครที่ต้องการตรวจเช็คราคา รถกระบะรับจ้างบึงกาฬ ราคาถูก วันนี้เราพร้อมที่จะให้ราคาค่าขนย้ายแก่ลูกค้าทุกท่านที่มีความประสงค์ต้องการอยากจะใช้บริการ ไม่ว่าจะเป็นงาน ขนย้ายบ้าน รับจ้างขนของ ขนย้ายของทั่วไป ขนย้ายห้องพัก ขนย้ายหอพัก ขนย้ายคอนโด ขนย้ายไซต์งานก่อสร้าง ขนย้ายออฟฟิศ ขนย้ายสำนักงาน สามารถเรียกใช้บริการ รถกระบะรับจ้างบึงกาฬ ราคาถูกหรือจะเป็น รถสี่ล้อรับจ้างบึงกาฬ ราคาถูกกับเราได้ตลอด 24 ชั่วโมงเราเป็นรถขนของที่ให้บริการ ที่ครอบคลุมงานทุกงานที่เราให้บริการขนย้ายนั้น จะสามารถลุล่วงผ่านไปได้ด้วยดีด้วยทีมงานคุณภาพของขนส่ง ซึ่งต้องบอกเลยว่าในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นการขนย้ายสินค้าประเภทไหน ด้วยประสบการณ์ที่เราทำงานมาอย่างยาวนานกว่า 15 ปีทำให้เรามีความรอบรู้ในการให้บริการงาน รับจ้างขนของบึงกาฬหรือแม้กระทั่งจังหวัดอื่นๆที่อยู่ใกล้เคียงเราเรามีรถที่ให้บริการจำนวนมากมายไม่เพียงแค่ รถกระบะรับจ้าง และ รถ 4 ล้อรับจ้าง เพียงเท่านั้นเรายังมี รถกระบะรับจ้างขนย้ายบ้าน ที่มีทั้งขนาดกระบะและ 4 ล้อบึงกาฬ ดังนั้นไม่ว่าคุณจะต้องการขนย้ายสินค้าเป็นแบบไหนก็สามารถเรียกใช้บริการเราได้ทันที


รถรับจ้างบึงกาฬบริการขนย้ายที่ถูก ดีคุ้ม ใกล้บ้าน

ในช่วงเทศกาลที่ใกล้จะมาถึงนี้นั่นก็คือปีใหม่ คุณจะทำการขนย้ายสินค้าด้วยหรือไม่ แน่นอนว่าในช่วงเทศกาลปีใหม่เป็นช่วงที่ต้องมีการเปลี่ยนงาน หรือย้ายที่อยู่อาศัย ย้ายบ้าน หรือแม้กระทั่งย้ายออฟฟิศสำนักงาน ดังนั้น รถปิ๊คอัพรับจ้างขนของบึงกาฬ ของเราจึงให้บริการลูกค้าได้อย่าง เต็มที่และบริการทุกวันเวลาหากคุณต้องการที่จะขนย้ายบ้านช่วงปีใหม่หรือขนย้ายของอื่นๆ ขนย้ายสินค้าต่างๆช่วงปีใหม่ก็สามารถที่จะติดต่อประสานงานกับเจ้าหน้าที่ที่คอยให้บริการลูกค้าของเราตลอด 24 ชั่วโมงเราให้บริการด้วยความเป็นกันเอง ในราคาที่ถูกหากคุณต้องการลดต้นทุนสินค้าคุณมาถูกที่แล้ว เนื่องจากว่าที่นี่ขนส่ง เราบริการด้วยความมุ่งมั่น ในต้นทุนที่สามารถบริหารจัดการได้ทำให้รถรับจ้างบึงกาฬของเราของใจและเป็นที่หนึ่งของคนในพื้นที่ที่สำคัญพนักงานขับรถของเราทุกคน ได้ผ่านการอบรมมาเป็นอย่างดีจึงไม่มีปัญหาในเรื่องของการขนย้ายแต่อย่างใด ท่านสบายใจได้

จุดบริการพื้นที่ที่เราให้บริการ รถรับจ้าง4ล้อบึงกาฬนั้นเรามีจุดให้บริการที่มีความหลากหลายและ มีหลายพื้นที่ที่คอยให้บริการท่าน โดยจะอยู่ใกล้ท่านมากที่สุด สามารถที่จะได้ใช้บริการได้เลยที่

    อำเภอเมืองบึงกาฬ
    อำเภอโซ่พิสัย
    อำเภอเซกา
    อำเภอบึงโขงหลง
    อำเภอบุ่งคล้า
    อำเภอปากคาด
    อำเภอพรเจริญ
    อำเภอศรีวิไล

บึงกาฬ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอย่างมากมาย สำหรับลูกค้าหรือนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวยังจังหวัดของเรานั้น เราอยากจะแนะนำว่าหากการเดินทางของท่านมีสินค้าที่มีจำนวนมากหรือมาเที่ยวด้วยกันหลายๆคน ไม่ต้องการที่จะขนย้ายของหรือขนย้ายกระเป๋าด้วยตัวเอง ท่านก็สามารถที่จะเรียกใช้ บริการรถรับจ้าง กับเราได้ซึ่งเรามี รถกระบะรับจ้างขนของบึงกาฬ ไว้คอยบริการลูกค้าที่เป็นนักท่องเที่ยวหรือผู้ที่ต้องการ ย้ายห้องพัก ย้ายหอพัก ในเขตพื้นที่เราก็สามารถให้บริการท่านได้เช่นเดียวกันแต่หากเป็นการขนย้ายบ้านที่มีปริมาณมากๆมีตู้เสื้อผ้า มีตู้เย็น มีที่นอน เราแนะนำว่าควรใช้รถที่มีขนาดใหญ่มากขึ้นซึ่งรถขนของดังกล่าวนี้จะมีขนาดตั้งแต่ รถ 4 ล้อใหญ่รับจ้างบึงกาฬ

ซึ่งราคาที่เราจะให้บริการนั้นเป็นราคาที่ไม่แพงหรือเป็นราคาที่เป็นมาตรฐานและยังต่อรองราคาลูกค้าจะลดต้นทุนได้อย่างไม่มีปัญหา หากเป็นการขนย้ายเครื่องจักรที่มีขนาดใหญ่หรือขนย้ายต้นไม้เพื่อต้องการจะเอาไปปลูก ท่านก็สามารถเรียกใช้รถรับจ้างที่ใหญขึ้นหรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า รถเฮี๊ยบรับจ้างบึงกาฬ ของเราได้ซึ่งเราสามารถที่จะยกสินค้าได้ที่มีน้ำหนักมากๆน้ำหนักตั้งแต่เป็นตันขึ้นไป เราก็สามารถที่จะใช้บริการได้เช่นเดียวกันคือได้ว่าเรามีงานบริการรับจ้างขนของบึงกาฬที่ครอบคลุมพื้นที่การให้บริการอย่างเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ ดังนั้นในเรื่องของความสบายอกสบายใจสามารถเชื่อมั่นเราได้เลยว่า เราเป็นผู้ให้บริการตัวจริงเสียงจริงและให้บริการลูกค้าด้วยความเป็นกันเอง ถึงแม้ว่าเราจะเป็นผู้ให้บริการที่ไม่ได้ใหญ่มาก แต่เรามั่นใจว่าจะสามารถบริการลูกค้าด้วย กำลังที่เต็มที่ ปลอดภัย และรวดเร็วต้องเราเท่านั้น

การค้นหา รถกระบะรับจ้างขนของบึงกาฬราคาถูก ของเรานั้นทำได้ไม่ยากเพียงแค่ท่าน Search Google หรือค้นหาด้วยคำว่า รถรับจ้างบึงกาฬ ก็สามารถเห็น เว็บไซต์ของเราได้ที่ คำค้นหาเราจะ มีความน่าเชื่อถือที่จะไม่ทำให้ท่านต้องมีความกังวลในการตัดสินใจเลือกใช้บริการอย่างแน่นอนเพราะว่าเราให้บริการมาอย่างยาวนาน มีความชำนาญมีความเป็นมืออาชีพ มีความรวดเร็วและสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า มีเจ้าหน้าที่ไว้คอยบริการและพนักงานขับรถที่เชื่อใจได้ ดังนั้น หากท่านต้องการที่จะขนย้ายบ้าน ขนย้ายห้อง พักขนย้ายคอนโด ขนย้ายหอพัก หรืองานขนย้ายออฟฟิศ ขนย้ายสำนักงาน ขนย้ายที่อยู่อาศัย ท่านสามารถเรียกใช้บริการ รถกระบะรับจ้างบึงกาฬ ของเราได้ทันทีโดยที่ ท่านไม่ต้องทำอะไรอีกเลยเมื่อใช้บริการกับเราลองให้โอกาสเราได้เข้าไปให้บริการท่านสักครั้ง รับรองว่าท่านจะพึงพอใจในงานบริการรับจ้างขนของของเราอย่างแน่นอนขอบคุณมากค่ะ

15
เตรียมตัวไปเลือกตั้งอย่างไร? ไม่เสี่ยงติดเชื้อโควิด-19

เตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็น เช่น เจลแอลกอฮอล์ ปากกาส่วนตัวสำหรับใช้ลงทะเบียนและกาบัตรเลือกตั้ง
สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา เมื่อออกจากบ้านและขณะอยู่ในหน่วยเลือกตั้ง
ตรวจวัดอุณหภูมิ และล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ก่อนเข้าหน่วยเลือกตั้ง หากมีอุณหภูมิสูงกว่า 37.5 องศาเซลเซียส เป็นหวัด ไอหรือจามผิดปกติ ให้ใช้สิทธิลงคะแนนในคูหาพิเศษ ที่คณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งได้จัดเตรียมไว้
เว้นระยะห่างจากผู้อื่นอย่างน้อย 1 เมตร
ทำการหย่อนบัตรเอง ภายใต้การกำกับดูแลของเจ้าหน้าที่
ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ก่อนออกจากหน่วยเลือกตั้ง

ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ใช้สิทธิเลือกตั้งได้หรือไม่?สำหรับผู้ป่วยโควิด-19 และผู้มีความเสี่ยงสูงสามารถใช้สิทธิเลือกตั้งได้เช่นกัน โดยปฏิบัติตามมาตรการการป้องกัน และ เข้าคูหาที่จัดไว้สำหรับผู้ป่วยโควิด-19 เท่านั้น

    เตรียมอุปกรณ์ส่วนตัวที่จำเป็น เช่น บัตรประจำตัวประชาชน เจลแอลกอฮอล์ ปากกา
    สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา
    หลีกเลี่ยงการใช้บริการขนส่งสาธารณะ แนะนำให้เดินเท้าหรือใช้รถยนต์ส่วนตัว
    เว้นระยะห่างจากผู้อื่นอย่างน้อย 1 เมตร
    ทำการหย่อนบัตรด้วยตนเอง ภายใต้การกำกับดูแลของเจ้าหน้าที่
    เมื่อเสร็จจากการเลือกตั้งกลับที่พักทันที ไม่แวะทำกิจกรรมใดๆ ระหว่างทางโดยเด็ดขาด

นอกจากอุปกรณ์ในการป้องกันความเสี่ยงจากการได้รับเชื้อโควิด-19 อย่าลืม! หลักฐานที่ต้องใช้แสดง “บัตรประชาชน”

บัตรหรือหลักฐานอื่นใดของทางราชการ หรือหน่วยงานของรัฐออกให้ที่มีรูปถ่ายและมีเลขประจำตัวประชาชน เช่น บัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ, ใบขับขี่, หนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต)

หน้า: [1] 2 3 ... 41