บริการด้านอาหาร: สูตรกล้วยน้ำว้า รักษาโรค บรรเทาป่วย เสริมความสวยก็ได้ ความโชคดีของบ้านเราอย่างหนึ่งก็คือการมีกล้วยน้ำว้าให้กินนี่แหละค่ะ เพราะกล้วยน้ำว้าเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย และยังหากินง่าย ราคาก็ถูกแสนถูกอีกต่างหาก ที่สำคัญกล้วยน้ำว้า สรรพคุณเขาก็ใช้ย่อยนะคะ ช่วยรักษาโรคบางชนิดก็ได้ บรรเทาอาการป่วยก็หลายอย่าง ส่วนสาว ๆ ที่อยากบำรุงผิว ผม เสริมความสวยความงาม กล้วยน้ำว้าก็จัดให้ได้เหมือนกัน ว่าแล้วมาเปิดสูตรกล้วยน้ำว้าเพื่อสุขภาพกันเลย
1. กล้วยหมักน้ำผึ้ง สูตรยาอายุวัฒนะ
ทั้งกล้วยและน้ำผึ้งต่างก็มีสรรพคุณเจ๋ง ๆ ในตัวเอง และหากเรากินกล้วยไม่ทัน กล้วยน้ำว้าสุกงอมก่อน เราสามารถนำกล้วยน้ำว้ามาหมักกับน้ำผึ้ง ทิ้งไว้อย่างน้อย 3 สัปดาห์ แล้วกินเป็นยาอายุวัฒนะวันละ 2 ช้อนชาได้ โดยสูตรนี้มาจาก ศ.วุฒิคุณ ดร. นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ ประธานคณะกรรมการสาธารณสุข และนายกสมาคมเวชศาสตร์ป้องกันแห่งประเทศไทย
วิธีทำ
* นำกล้วยน้ำว้าสุกมาหั่นเป็นแว่น ใส่โหลแก้วขนาดไหนก็ได้ ให้เกือบเต็มโหล
* เทน้ำผึ้งลงไปในโหลจนเต็ม แล้วใช้ไม้ลูกชิ้นขัดปากโหลไว้ เพื่อกดกล้วยไม่ให้ลอยขึ้นเหนือน้ำผึ้ง
* หมักทิ้งไว้ประมาณ 3-4 สัปดาห์ โดยเปิดฝาทุก ๆ 2 วัน เพื่อไล่ฟองจากยีสต์ของกล้วย
* หากหมักได้ที่แล้ว น้ำจากการหมักจะเปี่ยมไปด้วยสารอาหารมีประโยชน์มากมาย และปริมาณน้ำตาลจากกล้วยจากน้ำผึ้งจะกลายเป็นรสเปรี้ยว ๆ จากกรดและด่างที่มีความสมดุลต่อร่างกาย กินวันละ 1 ช้อนโต๊ะก่อนนอนได้เลย แม้แต่คนเป็นเบาหวานก็กินได้นะคะ
* สูตรนี้สามารถหมักด้วยน้ำตาลทรายแทนน้ำผึ้งก็ได้ โดยต้มน้ำตาลทราย 3 ขีด กับน้ำ 1 ลิตร ให้เดือด ทิ้งไว้ให้เย็น จากนั้นนำมาเทใส่โหลที่บรรจุกล้วยน้ำว้า 1 กิโลกรัมไว้ หมักเวลาเท่ากันกับสูตรใส่น้ำผึ้ง
2. บรรเทาอาการแสบท้องจากโรคกระเพาะ
สูตรนี้ต้องใช้กล้วยดิบ เพราะในเนื้อกล้วยดิบจะมีสารแทนนินอยู่เยอะ โดยสารตัวนี้มีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย และป้องกันผนังลำไส้ถูกทำลายจากเชื้อโรคหรือเอนไซม์ที่มีรสเผ็ดร้อน เช่น เอนไซม์จากพริก จึงช่วยให้อาการแสบท้องของโรคกระเพาะและแผลในกระเพาะลดน้อยลง
วิธีทำ
* นำกล้วยน้ำว้าดิบมาปอกเปลือก แล้วฝานเนื้อกล้วยเป็นแผ่นบาง ๆ
* นำกล้วยที่ฝานไว้ไปตากให้แห้ง (ประมาณ 2 วัน)
* บดกล้วยเป็นผงละเอียด เก็บไว้ในภาชนะที่สะอาด แห้ง และปิดมิดชิด
* ตักครั้งละ 1-2 ช้อนโต๊ะ ชงกับน้ำอุ่น ๆ หรือน้ำข้าว แล้วดื่มก่อนอาหาร 30 นาที และก่อนนอน
3. แก้ท้องร่วง
สูตรที่ 1
ชงผงกล้วยบดละเอียด ปริมาณ 10 กรัม ต่อน้ำ 1 แก้ว ดื่มรักษาเมื่อมีอาการท้องร่วง เพราะสารแทนนินในกล้วยน้ำว้าดิบมีฤทธิ์ยับยั้งแบคทีเรียที่ทำให้เกิดอาการท้องเสีย ท้องร่วงได้
สูตรที่ 2
นำกล้วยน้ำว้าห่ามมาฝานเป็นแผ่นบาง ๆ แล้วใส่น้ำให้ท่วม ตั้งไฟกลาง ๆ นาน 30 นาที รอจนน้ำเดือดแล้วปิดไฟ ทิ้งไว้ให้อุ่น ๆ ดื่มครั้งละ 1/2-1 ถ้วยแก้ว ทุกครั้งที่ท้องเสีย หรือทุก ๆ 1-2 ชั่วโมง ในกรณีที่ถ่ายหลายครั้งใน 4-5 ชั่วโมงแรก หรือวันละ 3-4 ครั้ง
4. บำรุงกระดูกและฟัน
นำกล้วยน้ำว้าห่าม ๆ ไปปิ้งกิน ร่างกายจะดูดซึมแคลเซียมจากกล้วยได้มากขึ้นถึง 4 เท่า ช่วยบำรุงกระดูก ฟัน และยังป้องกันภาวะกระดูกพรุนในผู้หญิงอายุ 40 ปีขึ้นไป
5. ช่วยลดกลิ่นปาก
หลังตื่นนอนให้กินกล้วยน้ำว้าทันที จากนั้นค่อยแปรงฟัน กล้วยน้ำว้าจะช่วยลดกลิ่นปากได้มาก
6. แก้ผื่นคัน
ใบกล้วยน้ำว้าก็สามารถแก้อาการคันที่ผิวหนังเราได้ โดยนำใบกล้วยน้ำว้ามาล้างให้สะอาด จากนั้นนำไปต้มในน้ำ แล้วเอาน้ำต้มมาผสมน้ำอาบแก้คัน
7. ฆ่าเชื้อโรคแผล
นำใบกล้วยที่ล้างสะอาดไปเผาฆ่าเชื้อ แล้วใช้ปิดแผล พันแผลแทนผ้าพันแผลก็ได้ สูตรนี้ใช้มายาวนานในสมัยโบราณที่ยังไม่มีอุปกรณ์ทางการแพทย์เหมือนทุกวันนี้
8. เพิ่มปริมาณน้ำนมของคุณแม่
ถัดมาที่หัวปลีกันบ้าง สามารถนำหัวปลีมาตากแล้วบดเป็นผง ชงกับน้ำดื่มเพื่อบำรุงและเพิ่มปริมาณน้ำนมในสตรีหลังคลอด นอกจากนี้หัวปลียังมีประโยชน์อื่น ๆ อีกมาก
9. สครับผิว
สูตร 1 กล้วยน้ำว้าสุก 3-4 ลูก + น้ำผึ้ง 3 ช้อนโต๊ะ
นำส่วนผสมทั้งหมดมาปั่นรวมกันจนได้เนื้อเนียนละเอียดเข้ากันแล้วจึงนำมานวดวน ๆ เบา ๆ ตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย พอกทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที จะช่วยปรับผิวให้นวลเนียน
สูตร 2 กล้วยน้ำว้าสุก 3-4 ลูก + นมสดแช่เย็น 1 ถ้วย
นำมาปั่นให้เข้ากันแล้วพอกไว้ 10-20 นาที สูตรนี้จะช่วยทำให้ผิวหยาบกร้าน กระด่างกระดำ ดูเรียบเนียนสดใสขึ้น (ผิวไหม้แดดก็ใช้สูตรนี้ได้ด้วยนะ)
สูตร 3 กล้วยน้ำว้าสุก 3-4 ลูก + ดินสอพอง + มะนาว ½ ซีก
ใช้ดินสอพองในสัดส่วนที่กะให้เท่ากันกับปริมาณกล้วยน้ำว้าที่สับหรือปั่นแล้ว จากนั้นนำมาทาทิ้งไว้จนเริ่มแห้งหรือประมาณ 15 นาที แล้วจึงล้างออก จะสังเกตได้ว่าผิวจะนุ่ม กระชับ ขาวกระจ่างใสขึ้นได้อย่างทันตาเลยทีเดียว
10. หมักผมนุ่ม
นำกล้วย 2 ลูกมาผสมกับ น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ และน้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ ปั่นส่วนผสมให้รวมเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นสระผมให้สะอาด แล้วมาสก์ผมด้วยส่วนผสมที่ปั่นไว้ให้ทั่ว แล้วนำผ้าขนหนูชุบน้ำหมาด ๆ มาพันผม อบทิ้งไว้ 30 นาที จึงล้างผมด้วยน้ำและน้ำยาสระผมปริมาณเล็กน้อย ทำสัปดาห์ละครั้ง สารอาหารจากกล้วยและส่วนประกอบอื่น ๆ จะช่วยบำรุงผมให้นุ่มสลวย เงางาม
11. รักษาแผลยุงกัด
ใช้เปลือกกล้วยด้านในถูบริเวณผิวที่โดนยุงกัด คลึงเบา ๆ ทิ้งไว้สักพัก อาการบวมแดงก็จะหายไป หรือไม่ว่าจะถูกแมลงอะไรกัดต่อย เปลือกกล้วยก็ช่วยลดอาการบวม แดง คันได้ เพราะน้ำตาลในเปลือกกล้วยจะช่วยลดอาการบวมของตุ่มคันนั่นเอง
12. รักษาส้นเท้าแตก
กินกล้วยน้ำว้าแล้วอย่าทิ้งเปลือก เพราะเราสามารถนำเปลือกกล้วยด้านใน มาถู ๆ รักษาส้นเท้าแตกกร้านได้ ทิ้งไว้ 10-15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด แล้วทาครีมบำรุง ทำประจำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง จะรู้สึกเลยว่าผิวบริเวณส้นเท้าอ่อนนุ่มขึ้น
ประโยชน์ของกล้วยน้ำว้าแทบจะครอบจักรวาลด้านสุขภาพเลยก็ว่าได้ ถึงบอกไงล่ะว่าเราโชคดีนะที่มีกล้วยน้ำว้าราคาถูกให้กินทุกฤดู